แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ยกให้นั้นเมื่อข้อความในสัญญาบางแห่งใช้คำว่า “ห้องแถว” บางแห่งใช้คำว่า “ที่ห้องแถว” คงหมายความว่า “ห้องแถว” ไม่ได้หมายความถึงที่ดินด้วยประกอบกับการทำนิติกรรมยกให้ต่อกรมการอำเภอก็แสดงว่ายกให้แต่เฉพาะห้องแถว ถ้ายกให้ทั้งที่ดินซึ่งมีโฉนดแล้วด้วยก็ต้องไปทำนิติกรรมและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินหรือผู้ทำการแทน มิฉะนั้นการยกให้ไม่สมบูรณ์
เมื่อทรัพย์ส่วนใดในพินัยกรรม ผู้ทำพินัยกรรมกลับใจยกให้แก่ผู้อื่นไปทรัพย์ส่วนนั้นก็ถูกเพิกถอนไปเท่านั้นเอง พินัยกรรมไม่เสียไปทั้งฉบับ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์กับนายนิ้นตุ่นเป็นบุตรนายเอ็กเย็ก เดิมนายเอ็กเย็กได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามโฉนดที่ ๔๔๕ พร้อมทรัพยืสินอื่นให้นายยิ้นตุ่น หรือสุวรรณทั้งหมด ต่อมานายเอ็กเย็กได้จัดสรรทรัพยสินใหม่คือ
๑.ยกห้องแถว ๒ ห้องพร้อมกับที่ดินที่ห้องแถว ๒ ห้อง (ตั้งอยู่วังพันเต๋า) ให้โจทก์
๒.ยกห้องแถว ๓ ห้องพร้อมกับที่ดิน ๓ ห้องให้นายสุวรรณ
๓.ห้องแถวอีก ๒ ห้องกับที่ดินนายเอ็กเย็กกันไ+ไว้
การยกทรัพย์ให้โจทก์และนายยิ้นตุ่นหรือสุวรรณครั้งหลังนี้ได้ทำนิติกรรมยกให้ ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ จำเลยไม่ยอมแบ่งให้โจทก์ จึงขอให้แสดงว่าพินัยกรรมของนายเอ็กเย็กที่ทำไว้เดิมถูกเพิกถอนโดยการกระทำของเจ้ามรดก หากจะฟังว่าจำเลยมีสิทธิจะจัดการทรัพย์มรดกอยู่ก็ขอให้จำเลยแบ่งที่ดินที่ห้องแถว ๒ ห้องตั้งอยู่ยาวจดกำแพงวัดพันเต๋าให้โจทก์ และแบ่งห้องแถวที่เหลือพร้อมกับที่ดินอันเป็นมรดกของนายเอ็กเย็กให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง
จำเลยต่อสู้ว่านาเอ็กเย็กยกแต่ห้องแถว ๒ ห้องให้โจทก์ไม่รวมที่ดินด้วย ส่วนมรดกที่ยงมิได้ยกให้ใครคงมีคือที่ดินโฉนดที่ ๔๔๕ และห้องแถว ๒ ห้องดังนั้นจะฟังว่าพินัยกรรมของนายเอ็กเย็กถูกเพิกถอนโดยการกระทำของนายเอ็กเย็กหาได้ไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจขอแบ่งที่ดินเฉพาะห้องแถว ๒ ห้องหรือแบ่งห้องแถวที่ยังไม่ได้ยกให้ใครได้
โจทก์จำเลยแถลงรับกัน
๑.โจทก์จำเลยว่ที่ดินตามโฉนดที่ ๔๔๕ พร้อมทั้งห้องแถว ๗ ห้องเป็นของนายเอ็กเย็ก
๒.พินัยกรรมเดิมนั้นนายเอ็กเย็กได้ทำไว้จริงและหนังสือสัญญายกกรรมสิทธิที่ ๓/๑๘ และที่ ๔/๑๙ ๑๕ พ.ค.๙๔ นายเอ็กเย็กได้ทำยกให้โจทก์และนายสุวรรณน้องชายโจทก์จริง ห้องแถวที่เหลืออยู่อีก ๒ ห้องนายเอ็กเย็กเอาไว้อยู่เองจนนายเอ็กเย็กตาย ห้องแถวทั้ง ๗ ห้องปลูกอยู่ในที่ดินโฉนดที่ ๔๔๕
ข้อที่โจทก์โต้เถียงกันคือ
ก.จำเลยเถีงกันว่าสัญญายกกรรมสิทธิที่ ๓/๑๘ และที่ ๔/๑๙ ๑๕ พ.ค.๙๔ นายเอ็กเย็กยกให้เฉพาะห้องแถวไม่ได้ยกที่ดินให้ด้วย พินัยกรรมยังมีผลสมบูรณ์ใชับังคับได้
ข.โจทก์เถียงว่านายเอ็กเย็กยกห้องแถวให้พร้อมทั้งที่ดิน พินัยกรรมจึงเป็นอันถูกเพิกถอนไป ส่วนมรดกอื่น ๆ นอกจากที่นายเอ็กเย็กทำให้โจทก์และนายยิ้นตุ่นแล้วควรแบ่งกันตาม ก.ม.
โจทก์จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดข้อ ก.ม.ว่าที่นายเอ็กเย็กทำนิติกรรมยกกรรมสิทธิให้โจทก์และนายสุวรรณกับที่กันเอาไว้เองบ้างดังนี้จะถือว่า พินัยกรรมถูกเพิกถอนหรือไม่ และพินัยกรรมยกกรรมสิทธิที่ ๓/๑๘ และ ๔/๑๙ นั้นหมายความถึงที่ดินซึ่ปลูกห้องแถวด้วยหรือไม่ โดยไม่ขอสืบพยานต่อไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าพินัยกรรมเดิม (๑๓ ก.ย.๙๑) ถูกเพิกถอนแล้วแต่วันที่ ๑๕ พ.ค. จำเลยหมดสิทธิและหน้าที่ที่จะเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม มรดกที่ยังไม่ได้แบ่งจึงตกไปยังทายาทโดยชอบธรรมคือโจทก์ และนายยิ้นตุ่นหรือสุวรรณคนละสวนเท่า ๆ กัน
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าโจทก์มีกรรมสิทธิเฉพาะห้องแถวตามหนังสือสัญญายกกรรมสิทธิที่ ๔/๑๙ ๑๕ พ.ค. ๙๔ คำขอนอกนั้นให้ยก
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อความในสัญญาบางแห่งใช้คำว่า “ห้องแถว” บางแห่งใช้คำว่า “ที่ห้องแถว” เมื่อพิเคราะห์ตามความในสัญญาโดยตลอดแล้วเห็นว่า “ที่ห้องแถว” คงหมายความว่า “ห้องแถว ไม่ได้หมายถึงที่ดินด้วย
อนึ่งการทำนิติกรรมยกให้ต่อกรมการอำเภอก็แสดงว่ายกให้แต่เฉพาะห้องแถว ว่ายกให้ทั้งที่ดินซึ่งมีโฉนดแล้วด้วย ก็ต้องไปทำนิติกรรมและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินหรือผู้ทำการแทน มิฉะนั้นการยกให้ไม่สมบูรณ์
พินัยกรรมของนายเอ็กเย็กฉบับที่ ๑๓ ก.ย.๙๑ ได้ถูกเพิกถอนไปเฉพาะห้องแถวไม่ถูกเพิกถอนหมดทั้งฉบับ จำเลยยังคงมีสิทธิและหน้าที่จัดการทรัพย์มรดกของนายเอ็กเย็กผู้วายชนม์ที่เหลือตามพินัยกรรม
พิพากษายืน.