แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามเพราะคดีมีทุนทรัพย์ไม่ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ ส่วนฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาให้โจทก์ทั้งหมด โจทก์เห็นว่า ฎีกาที่ว่า การนำสืบพยานหลักฐานของจำเลย ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94จึงไม่ชอบที่ศาลจะรับฟังคำเบิกความดังกล่าว เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เป็นสาระแก่คดี โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์ด้วย หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวาร ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาท กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย แก่โจทก์ปีละ 7,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของยอดเงินค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจำเลย จะชำระเสร็จ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 56) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 59)
คำสั่ง ฎีกาข้อกฎหมายของโจทก์ที่ว่า ตามเอกสารหมาย จ.1เป็นหนังสือรับเงินจึงเป็นการซื้อขาย การที่จำเลยนำสืบว่า ไม่ได้รู้จัก ไม่เคยขายที่ดิน ทั้ง ๆ ที่ตามเอกสารดังกล่าวระบุชัดแจ้งว่าจำเลยได้รับเงินจากผู้มีชื่อครบถ้วนแล้วเป็นการนำสืบเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ข) นั้นเป็นข้อกฎหมายไร้สาระเพราะจำเลยปฏิเสธว่ามิได้ลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าว ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ยกคำร้อง