แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ จำเลยร้องขอพิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องจำเลยอุทธรณ์ ระหว่างอุทธรณ์จำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในอีกคดีหนึ่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้เข้ามาว่าคดีแทนจำเลยศาลอุทธรณ์จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีโดยมิได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลย เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาใหม่ในคดีล้มละลาย ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีล้มละลายใหม่ มีผลให้คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเป็นอันเพิกถอนไปในตัว ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 209ประกอบด้วย พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 จำเลยชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไป ศาลฎีกายังไม่มีอำนาจวินิจฉัยฎีกาของจำเลยที่ขอให้ศาลฎีกาสั่งศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 1,501,469.56 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ให้จำหน่ายคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อจำเลยยื่นอุทธรณ์ขอให้พิจารณาคดีใหม่แล้ว ระหว่างส่งสำเนาอุทธรณ์ให้อีกฝ่ายนั้น จำเลยซึ่งถูกฟ้องให้ล้มละลายในอีกคดีหนึ่งที่ศาลแพ่ง ได้ถูกศาลแพ่งมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2533 ศาลชั้นต้นได้เรียกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาว่าคดีแทนจำเลย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นว่าการเข้าดำเนินคดีแทนจำเลยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกองทรัพย์สินของจำเลยและโจทก์ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้แล้ว จึงไม่เข้าว่าคดีแทนจำเลยศาลอุทธรณ์จึงให้จำหน่ายคดีโดยมิได้วินิจฉัยอุทธรณ์จำเลย เพราะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่เข้าว่าคดีแทนจำเลย ประกอบกับโจทก์ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาในคดีนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีต่อไป จำเลยฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ของจำเลย เนื่องจากจำเลยยื่นคำขอพิจารณาใหม่ในคดีล้มละลายและศาลแพ่งมีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีล้มละลายใหม่ เมื่อวันที่17 ตุลาคม 2533 ตามสำเนารายงานกระบวนพิจารณาและคำสั่งศาลแพ่งท้ายฎีกาจำเลย ซึ่งโจทก์แก้ฎีกาโดยไม่โต้แย้งคัดค้านสำเนาเอกสารดังกล่าวศาลฎีกาเห็นว่า แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ตามที่จำเลยฎีกาว่าศาลแพ่งมีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีล้มละลายใหม่ ซึ่งมีผลให้คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเป็นอันเพิกถอนไปในตัว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มรตรา 209 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 153 ก็ตาม จำเลยชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไป การที่จำเลยฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ของจำเลย ศาลฎีกายังไม่มีอำนาจรับฎีกาจำเลยไว้วินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย