คำสั่งคำร้องที่ 458/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อ 2 แผ่นที่ 1 ว่าที่ดินตามพินัยกรรมและสัญญาเช่าเป็นคนละแปลง กับที่ดินพิพาท เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ทั้งมิได้ยกขึ้นว่ากันมา แต่ในชั้นอุทธรณ์ ฎีกาว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ครอบครองทำประโยชน์ ในที่ดินพิพาท เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาข้อ 2 แผ่นที่ 3 โต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน เป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ฎีกาข้อ 3 ว่าจำเลยซื้อที่ดินพิพาทมา เป็นปัญหา ข้อเท็จจริงเช่นกันฎีกาของจำเลยต้องห้ามไม่ให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248,249 ไม่รับฎีกาคืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาให้จำเลย จำเลยเห็นว่า ฎีกาข้อ 2 แผ่นที่ 1 เป็นเรื่องอำนาจฟ้องและฟ้องเคลือบคลุม เพราะที่ดินพิพาทเป็นคนละแปลงกับที่ดินที่โจทก์บรรยายฟ้องและขอให้ศาลบังคับและฎีกาข้อ 2 แผ่นที่ 3 ที่ว่าสัญญาเช่าเอกสารหมาย จ.5 ไม่ได้ระบุสาระสำคัญแห่ง สัญญาเช่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 รับฟังพยานดังกล่าว ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นล้วนเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วย ความสงบเรียบร้อยของประชาชน ประกอบกับคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ จึงเป็นเรื่องขอแสดงสิทธิ อันเป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคา เงินได้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ โปรดมีคำสั่งให้รับ ฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 66,68) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินพิพาทของโจทก์ และห้ามเกี่ยวข้อง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 64) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 65 แผ่นที่ 5)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยสรุปได้ 2 ประเด็น ประเด็นแรก จำเลยฎีกาว่าที่ดินตามพินัยกรรมและสัญญาเช่าเป็นคนละแปลงกับ ที่ดินพิพาท ประเด็นข้อนี้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นฎีกาในข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นและ ศาลอุทธรณ์ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ประเด็นข้อสองจำเลยฎีกาว่า พยานโจทก์ ล้วนแต่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย กับโจทก์ จึงไม่น่าเชื่อถือ ส่วนพยานของจำเลยมีน้ำหนักจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล เป็นฎีกา ในข้อเท็จจริง คดีนี้เป็นคดีที่มีทุนทรัพย์พิพาทในชั้นฎีกา ไม่เกิน 200,000 บาท ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยทุกข้อชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share