คำสั่งคำร้องที่ 45/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลชั้นต้นสั่งฎีกาว่า คดีนี้จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกัน ไม่เกินสองแสนบาท ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงเมื่อฎีกาทุกข้อล้วนโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกา และสั่งคำร้องว่า ศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกาจึงไม่รับคำร้องขอทุเลาการบังคับ
จำเลยที่ 1 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีขัดกับพยานหลักฐานในสำนวน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาและรับคำร้องขอทุเลาการบังคับ ของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน50,000 บาท ให้แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่ง ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2531 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 72,75)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 80)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 1 โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคแรก ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share