แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ยกเว้น ฎีกาตั้งแต่แผ่นที่ 6 บรรทัดที่ 6 เป็นข้อกฎหมาย ฎีกาได้ จึงรับฎีกาเฉพาะในส่วนนี้ นอกนั้นไม่รับ
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ในส่วนที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ ยังมิได้วินิจฉัยถึงและยังไม่ถึงที่สุด ฎีกาของโจทก์ในส่วน ดังกล่าวจึงไม่ต้องห้าม และคดีนี้เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้อง ทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงไม่ต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ ทั้งหมดไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาบางส่วน(อันดับ 96)
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 103)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทก็ตาม แต่จำเลย ได้ให้การว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย เป็นการกล่าว เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ หาใช่ คดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคา เงินได้ไม่ คดีนี้ทรัพย์สินที่พิพาทมีราคา 80,000 บาท ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาในส่วนแรกของโจทก์มานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง