คำสั่งคำร้องที่ 266/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลอุทธรณ์ไม่ได้เพิ่มเติมโทษจำเลย คดีต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ไม่รับฎีกาจำเลยเห็นว่า การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ให้รอการลงโทษ มาเป็นไม่รอการลงโทษนั้น ถือได้ว่าเป็นการเพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219จำเลยจึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 39)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4,7,47,48,53 ทวิ,53 ตรี,72,73 ทวิ,74,74 ทวิ,75 เรียงกระทงลงโทษฐานตั้งโรงงานไม้แปรรูป จำคุก1 ปี ปรับ 10,000 บาท ฐานแปรรูปไม้สักและฐานมีไม้สักแปรรูปในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกกระทงละ 2 ปี ปรับ กระทงละ10,000 บาท และฐานมีสิ่งประดิษฐ์ทำด้วยไม้หวงห้ามเกินขนาดและปริมาณที่กำหนด จำคุก 6 เดือน ปรับ 5,000 บาท รวม 4 กระทง ให้จำคุก5 ปี 6 เดือน และปรับ 35,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกรวม 2 ปี 9 เดือนและปรับ 17,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4,7,47,48,53 ทวิ,53 ตรี,73 วรรคสอง,73 ทวิ,74,74 ทวิ,75(ที่แก้ไขแล้ว) ให้ลงโทษฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ จำคุก 1 ปี ฐานแปรรูปไม้ จำคุก 1 ปี ฐานมีไม้แปรรูปจำคุก 1 ปี ฐานมีสิ่งประดิษฐ์ทำด้วยไม้หวงห้ามเกินขนาด จำคุก 6เดือน รวมจำคุก 3 ปี 6 เดือน จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี 9 เดือน ไม่รอการลงโทษ ไม่ปรับ และไม่กำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติ นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 35)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 36)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฐานตั้งโรงงานไม้แปรรูป จำคุก 1 ปี ปรับ 10,000บาท ฐานแปรรูปไม้สักและฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกกระทงละ 2 ปี ปรับกระทงละ 10,000 บาท และฐานมีสิ่งประดิษฐ์ทำด้วยไม้หวงห้ามเกินขนาดและประมาณ ที่กำหนด จำคุก 6 เดือนปรับ 5,000 บาท รวม 4 กระทง จำคุก 5 ปี 6 เดือน ปรับ 35,000 บาทรับสารภาพลดให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี 9 เดือนและปรับ 17,500 บาทโทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี กับกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมประพฤติด้วยแต่ศาลอุทธรณ์แก้เป็นว่าให้ลงโทษฐานตั้ง โรงงานแปรรูปไม้ ฐานแปรรูปไม้และฐานมีไม้แปรรูป จำคุกกระทงละ 1 ปีฐานมีสิ่งประดิษฐ์ทำด้วยไม้หวงห้ามเกินขนาดและปริมาณที่กำหนด จำคุก 6 เดือน รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 9 เดือนไม่รอการลงโทษ ไม่ปรับและไม่กำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติ ซึ่งการที่ ศาลอุทธรณ์วางโทษจำคุกจำเลยน้อยลงแต่ไม่รอการลงโทษ และไม่ปรับทั้งไม่กำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤตินั้นเป็นผลร้ายแก่จำเลย เป็นการแก้ไขมากและเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลย จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 12จึงให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์แก้ภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันรับ

Share