แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ต้องห้ามมิให้โจทก์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220ที่แก้ไขใหม่ จึงไม่รับฎีกาโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์มีทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอันเป็นสาระสำคัญยิ่ง เพราะการที่โจทก์ถูกเจ้าพนักงานของรัฐล่วงละเมิดสิทธินั้น เป็นปัญหาไม่ชอบธรรมในสังคมและฎีกาของโจทก์มีเหตุผลและมีมูลเพียงพอที่จะวินิจฉัยให้เกิดความยุติธรรมได้โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157,188,352 ส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157,352 ประกอบกับมาตรา 86
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ว วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยทั้งสามตามที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องนั้น ไม่เป็นความผิดพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 11)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 12)
คำสั่ง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่แก้ไขแล้วศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง