คำสั่งคำร้องที่ 2967/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลย ทุกข้อเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกจึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่าการกระทำของจำเลยไม่ได้เป็นการกระทำ โดยประมาท เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(4),157 ที่แก้ไขใหม่ การกระทำของจำเลยกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุก 6 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 64)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยยื่นคำร้องนี้ เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224 วรรคหนึ่งส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาต่อไป (อันดับ 68)

คำสั่ง
จำเลยยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2537 และตาม แบบพิมพ์ท้ายฎีกามีข้อความว่า “รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว” ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาในวันนั้นเอง ถือว่าจำเลยทราบคำสั่งศาลชั้นต้นในวันนั้น จำเลยเพิ่งยื่นคำร้อง อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2537พ้นกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันฟังคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224 จึงต้องห้ามให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย

Share