แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยตกลงให้นำเงินค่าหุ้นที่จำเลยมีอยู่ในสหกรณ์ออมทรัพย์มาไว้เป็นประกันเงินกู้ที่จำเลยเป็นหนี้ โดยยอมให้สหกรณ์ออมทรัพย์หักชำระหนี้จากเงินค่าหุ้นได้ทันทีเมื่อหนี้ถึงกำหนด มีผลเพียงให้สหกรณ์ออมทรัพย์มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินค่าหุ้นก่อนเจ้าหนี้อื่น เงินค่าหุ้นดังกล่าวมิใช่ทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 285 และมาตรา 286 ทั้งตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.2543 ก็มิได้บัญญัติให้เงินค่าหุ้นไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี จำเลยจึงไม่อาจขอให้เพิกถอนคำสั่งอายัดของพนักงานบังคับคดีด้วยเหตุดังกล่าวได้
พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.2542 มาตรา 42 วรรคสอง ที่ห้ามมิให้เจ้าหนี้ของสมาชิกใช้สิทธิเรียกร้องในค่าหุ้นของสมาชิกในระหว่างที่สมาชิกภาพของสมาชิกผู้นั้นยังไม่สิ้นสุดลงมุ่งหมายที่จะคุ้มครองทุนของสหกรณ์ที่ได้มาจากค่าหุ้นของสมาชิกมิให้ลดน้อยถอยลงเพราะเหตุที่สมาชิกเป็นหนี้บุคคลภายนอก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของสหกรณ์เท่านั้น มิใช่บทกฎหมายที่ห้ามเจ้าหนี้มิให้ใช้สิทธิเรียกร้องในค่าหุ้นของสมาชิกเป็นการเด็ดขาดตลอดไป การอายัดเงินค่าหุ้นของสมาชิกไว้ก่อนโดยให้สหกรณ์ส่งเงินค่าหุ้นเมื่อสมาชิกผู้นั้นพ้นจากสมาชิกภาพเพื่อป้องกันสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามิให้เสียหายย่อมกระทำได้และไม่ขัอต่อบทกฎหมายดังกล่าว
คำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่กำหนดให้สหกรณ์ออมทรัพย์ส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยภายใน 7 วัน นับแต่วันที่จำเลยมีสิทธิได้รับเงิน แม้ไม่เป็นการเจาะจงให้สหกรณ์ออมทรัพย์ต้องส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยไปให้เจ้าพนักงานบังคับคดีในระหว่างที่จำเลยยังเป็นสมาชิก แต่ก็ไม่ชัดแจ้งว่าเป็นการกำหนดให้ส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยต่อเมื่อจำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิกแล้วหรือไม่ ศาลฎีกาแก้ไขคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีในส่วนนี้เพื่อให้ชัดแจ้งและสอดคล้องกับ พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.2542 มาตรา 42 วรรคสอง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยชำระเงิน 115,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 70,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ โดยให้ผ่อนชำระเป็นงวด งวดละไม่ต่ำกว่า 500 บาท ชำระงวดแรกในวันที่ 1 มกราคม 2546 และทุกวันที่ 1 ของเดือนถัดไป ทั้งนี้ ต้องชำระเสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 มกราคม 2547 หากผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้โจทก์บังคับคดีได้ทันที แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์จึงขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดี และขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือแจ้งอายัดเงินค่าหุ้น เงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนทั้งหมดที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ในฐานะสมาชิก แต่ไม่เกินจำนวนหนี้ตามหมายบังคับคดี โดยให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ส่งเงินไปให้เจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 7 วัน นับแต่วันที่จำเลยมีสิทธิได้รับเงิน ต่อมาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ส่งเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนที่จำเลยมีสิทธิได้รับให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดี 2 ครั้ง ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีได้จัดทำบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงินและจ่ายเงินส่วนได้ให้แก่โจทก์เป็นการรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาบางส่วนแล้ว
จำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยนำเงินค่าหุ้นที่มีอยู่แล้วในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด รวมทั้งเงินค่าหุ้นที่จะมีเพิ่มขึ้นในภายหน้าจำนำไว้แก่สหกรณ์ดังกล่าวเพื่อค้ำประกันเงินกู้ที่จำเลยเป็นหนี้ โดยยอมให้สหกรณ์หักชำระหนี้จากเงินค่าหุ้นได้ทันทีเมื่อหนี้ถึงกำหนด จำเลยยังเป็นสมาชิกของสหกรณ์อยู่ ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 มาตรา 42 วรรคสอง บัญญัติห้ามมิให้เจ้าหนี้ใช้สิทธิเรียกร้องในค่าหุ้นของสมาชิกในระหว่างสมาชิกภาพของสมาชิกยังไม่สิ้นสุดลง เจ้าหนี้จึงไม่อาจอายัดเงินค่าหุ้นของจำเลยได้ การกระทำของโจทก์และเจ้าพนักงานบังคับคดีที่อายัดเงินค่าหุ้นทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย จำเลยไม่สามารถใช้สิทธิกู้เงินต่างๆ จากสหกรณ์ได้ ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งอายัดเงินค่าหุ้นของจำเลย
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ยังมิได้ส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยไปให้เจ้าพนักงานบังคับคดี แม้เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าหุ้นโดยตรง แต่ก็ไม่ห้ามเจ้าหนี้ที่จะขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินดังกล่าวเพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเทหากมีการลาออกจากการเป็นสมาชิก จำเลยไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดี ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลย ค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งอายัดเงินค่าหุ้น เงินปันผล และเงินเฉลี่ยคืนที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ในฐานะสมาชิก โดยสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ส่งเงินไปให้เจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 7 วัน นับแต่วันที่จำเลยมิสิทธิได้รับเงิน ต่อมาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ส่งเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนที่ต้องจ่ายแก่จำเลยไปให้เจ้าพนักงานบังคับคดี 2 ครั้ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2546 และเดือนกุมภาพันธ์ 2547 และโจทก์ได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาบางส่วนจากเงินดังกล่าวแล้ว ส่วนเงินค่าหุ้นที่อายัด สหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ยังมิได้ส่งไปให้เจ้าพนักงานบังคับคดี คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า มีเหตุที่ต้องเพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีในส่วนที่อายัดเงินค่าหุ้นของจำเลยหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยตกลงให้นำเงินค่าหุ้นที่จำเลยมีอยู่ในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ไว้เป็นประกันเงินกู้ที่จำเลยเป็นหนี้โดยยอมให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด หักชำระหนี้จากเงินค่าหุ้นได้ทันทีเมื่อหนี้ถึงกำหนด คงมีผลเพียงให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินค่าหุ้นก่อนเจ้าหนี้อื่น เงินค่าหุ้นดังกล่าวมิใช่ทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 285 และมาตรา 286 ทั้งตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 ก็มิได้บัญญัติให้เงินค่าหุ้นเช่นว่านี้ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี จำเลยจึงไม่อาจขอให้เพิกถอนคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีด้วยเหตุดังกล่าวได้ ส่วนที่พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 มาตรา 42 วรรคสอง บัญญัติห้ามมิให้เจ้าหนี้ของสมาชิกใช้สิทธิเรียกร้องในค่าหุ้มของสมาชิกในระหว่างที่สมาชิกภาพของสมาชิกผู้นั้นยังไม่สิ้นสุดลงนั้น ก็โดยมุ่งหมายที่จะคุ้มครองทุนของสหกรณ์ที่ได้มาจากค่าหุ้นของสมาชิกมิให้ลดน้อยถอยลงเพราะเหตุที่สมาชิกเป็นหนี้บุคคลภายนอก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของสหกรณ์เท่านั้น หาใช่บทกฎหมายที่ห้ามเจ้าหนี้มิให้ใช้สิทธิเรียกร้องในค่าหุ้นของสมาชิกเป็นการเด็ดขาดตลอดไปไม่ การอายัดเงินค่าหุ้นของสมาชิกไว้ก่อนโดยให้สหกรณ์ส่งเงินค่าหุ้นเมื่อสมาชิกผู้นั้นพ้นจากสมาชิกภาพเพื่อป้องกันสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามิให้เสียหายจึงย่อมกระทำได้และไม่ขัดต่อบทกฎหมายดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม คำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่กำหนดให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยภายใน 7 วัน นับแต่วันที่จำเลยมีสิทธิได้รับเงิน แม้ไม่เป็นการเจาะจงให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ต้องส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยไปให้เจ้าพนักงานบังคับคดีในระหว่างที่จำเลยยังเป็นสมาชิก แต่ก็ไม่ชัดแจ้งว่าเป็นการกำหนดให้ส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยต่อเมื่อจำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิกแล้วหรือไม่ จึงเห็นสมควรแก้ไขคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีในส่วนนี้เพื่อให้ชัดแจ้งและสอดคล้องกับพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 มาตรา 42 วรรคสอง ฎีกาของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน”
พิพากษากลับ ให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีในส่วนที่อายัดเงินค่าหุ้นของจำเลย และให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งอายัดใหม่ โดยกำหนดให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยไปให้เจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 7 วัน นับแต่วันที่จำเลยพ้นจากการเป็นสมาชิก ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ