แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดให้โจทก์
โจทก์เห็นว่า การที่โจทก์ฟ้องบังคับขอให้จำเลยไปยื่นคำขอขายและจดทะเบียนขายที่ดินพิพาทแก่โจทก์ต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ถือได้ว่าโจทก์ขอบังคับให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อจะขายจึงเป็นข้อพิพาทที่เกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องห้าม ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคสอง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 112,113)
fจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินขอให้จำเลยไปยื่นคำขอขายและจดทะเบียนขายที่ดิน น.ส.3 ก เลขที่ 422 เล่ม 5 ก เลขที่ดิน 79 ตำบลเขาต่อ อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ เนื้อที่15 ไร่ 1 งาน 26 ตารางวา ให้แก่โจทก์ต่อเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอปลายพระยา แล้วรับเงิน ค่าที่ดินส่วนที่เหลือ 40,368 บาท จากโจทก์ หากไม่ปฏิบัติ ขอให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา ของจำเลย และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวน 129,264 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 109)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 110)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาให้ศาลพิพากษาให้จำเลยรับผิดตามคำฟ้อง เท่ากับฎีกาให้ศาลพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนขายที่ดินพิพาทราคา 105,000 บาทให้โจทก์และให้ชดใช้ค่าเสียหายอีก 129,264 บาท ตามสัญญา ทุนทรัพย์ตามฎีกาโจทก์จึงเกินสองแสนบาท ฎีกาโจทก์ ไม่ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาโจทก์เป็นการไม่ชอบ ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลเพิ่ม ตามจำนวนทุนทรัพย์ที่แท้จริงและพิจารณาสั่งฎีกาโจทก์ใหม่