แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยไม่เป็นสาระแก่คดี จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยได้ที่ดินที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ ศาลอุทธรณ์รับฟังพยานบุคคลหักล้างพยานเอกสารและฟังข้อเท็จจริงตามคำพยานโจทก์และพยานจำเลยด้วยเหตุผลที่ขัดกัน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ทั้งสองยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยกับบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและออกไปให้พ้นจากที่ดินพิพาทในเขตโฉนดเลขที่ 2253 ตำบลสามบัณฑิตอำเภออุทัย(อุไทยใหญ่) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (กรุงเก่า)ของโจทก์
จำเลยฎีกาลงวันที่ 1 ตุลาคม 2533 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับในวันเดียวกันนั้น (อันดับ 160)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาเกินกำหนด 10 วัน ให้ส่งสำนวนไปศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง(อันดับ 163)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจำเลยเมื่อวันที่1 ตุลาคม 2533 จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2533 ซึ่งเกิน 10 วันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย ค่าคำร้องให้เป็นพับ