คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2507

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การจับในที่รโหฐาน ในเวลากลางคืนโดยไม่มีหมายจับนั้นเมื่อพฤติการณ์ปรากฏว่าความผิดซึ่งหน้าซึ่งจำเลยผู้ถูกจับได้กระทำแล้วหลบหนีเข้าไปเป็นเพียงความผิดฐานลหุโทษตำรวจผู้จับรู้จักจำเลยและหลักแหล่งของจำเลยมาก่อนทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยจะหลบหนีต่อไปเช่นนี้ ก็ไม่เป็นกรณีฉุกเฉินอย่างยิ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 96(2) จ่าสิบตำรวจ สิบตำรวจโท และพลตำรวจจึงไม่มีอำนาจเข้าไปจับ การเข้าไปจับโดยไม่มีอำนาจเช่นนี้จำเลยย่อมกระทำการป้องกันได้และเมื่อไม่เกินสมควรแก่เหตุ จำเลยก็ไม่มีความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเสพสุราจนเป็นเหตุให้ตนเมาประพฤติวุ่นวายขณะอยู่ในถนนสาธารณะ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด 1 นัด โดยใช่เหตุในหมู่บ้านชุมชนและในท้องถนนสาธารณะ จ่าสิบตำรวจอาจ สิบตำรวจโทมานิตย์ พลตำรวจเจริญ พบเห็นการกระทำผิดซึ่งหน้าของจำเลยดังกล่าวจึงเข้าทำการจับกุมเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนอันเป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่ตามกฎหมาย จำเลยบังอาจต่อสู้ขัดขวาง เจ้าพนักงานโดยใช้อาวุธมีดโต้ปลายตัดพยายามจะฟันทำร้ายพลตำรวจเจริญ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138, 140, 296, 80, 376, 378, 91 และริบมีดของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลจังหวัดลำปางพิพากษาว่าจำเลยยิงปืนในหมู่บ้านโดยใช่เหตุผิดมาตรา 376 จำคุก 10 วัน ข้อหาอื่นให้ยก คืนมีดของกลาง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดมาตรา 378 ด้วย แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 376 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุด นอกนั้นยืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อวินิจฉัยมีว่า จ่าสิบตำรวจอาจ สิบตำรวจโทมานิตย์ พลตำรวจเจริญ มีอำนาจจับจำเลยในที่รโหฐานในเวลากลางคืนโดยไม่ต้องมีหมายจับได้หรือไม่พิเคราะห์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 81(1), 92(3) และ 96(2) แล้วเห็นว่า แม้จำเลยได้กระทำผิดซึ่งหน้า และขณะถูกไล่จับหนีเข้าไปในบ้านก็ตาม แต่ความผิดที่จำเลยกระทำก็เป็นแต่เพียงความผิดฐานลหุโทษซึ่งมีโทษเล็กน้อย จ่าสิบตำรวจอาจ พลตำรวจเจริญ รู้จักจำเลยมาก่อนและรู้ว่าบ้านนั้นเป็นของจำเลยเป็นอย่างดี เท่ากับรู้จักหลักแหล่งของจำเลยแล้ว ไม่ปรากฏว่าจำเลยจะหลบหนีต่อไป ฉะนั้น พฤติการณ์ดังกล่าวไม่เป็นเหตุให้ถือว่าเป็นกรณีฉุกเฉินอย่างยิ่งตามมาตรา 96(2) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จ่าสิบตำรวจอาจสิบตำรวจโทมานิตย์พลตำรวจเจริญ หามีอำนาจเข้าไปจับกุมจำเลยในบ้านเรือนของจำเลยไม่ การติดตามเข้าไปจับกุมจำเลยในบ้านเรือนจำเลยโดยไม่มีอำนาจเช่นนั้น จำเลยย่อมจะกระทำการเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายได้และการกระทำของจำเลยที่เงื้อมีดจะฟันตำรวจเหล่านี้ ก็ยังฟังไม่ได้ว่าเกินสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิดพิพากษายืน

Share