แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ได้ยื่นฎีกาไว้ บัดนี้จำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว โจทก์จึงขอถอนฎีกา โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ผู้ร้องแถลงไม่คัดค้าน (อันดับ 90)
โจทก์ชำระค่าคำร้องเพียง 20 บาท
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 1 ที่จะได้รับเงินค่าจ้างจำนวน 973,294 บาทจากกรุงเทพมหานคร เพื่อบังคับตามคำพิพากษาตามยอม เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหมายอายัดลงวันที่ 2 มีนาคม 2530 ไปยังกรุงเทพมหานครอายัดสิทธิเรียกร้องดังกล่าว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 1 ได้โอนสิทธิที่จะได้รับเงินค่าจ้างดังกล่าวให้แก่ผู้ร้องทั้งหมด ผู้ร้องและจำเลยที่ 1ได้แจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องไปยังกรุงเทพมหานคร และกรุงเทพมหานครได้ตอบรับทราบและตกลงด้วยในการโอนนั้นแล้ว สิทธิเรียกร้องที่จะได้รับเงินค่าจ้างจากกรุงเทพมหานครจึงตกเป็นของผู้ร้องแล้วขอให้ศาลเพิกถอนการอายัดสิทธิเรียกร้องดังกล่าว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้องของผู้ร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้เพิกถอนหมายอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดี
โจทก์ฎีกา (อันดับ 72)
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จแล้วและส่งไปศาลชั้นต้นแล้วก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว โดยทนายผู้ลงชื่อในคำร้องมีอำนาจถอนฟ้องได้ (อันดับ 82 แผ่นที่ 2,20)ศาลชั้นต้นจึงให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนพร้อมคำพิพากษาส่งคืนศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งต่อไป (อันดับ 89)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้โจทก์ถอนฎีกาได้ จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความของศาลฎีกา คืนค่าขึ้นศาลให้สามในสี่ แต่ให้หักค่าคำร้องขอถอนฎีกาที่ยังขาดอยู่ไว้ 20 บาท
