แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ยื่นฎีกา บัดนี้โจทก์ไม่ประสงค์ที่จะฎีกาคำสั่งศาลซึ่งสั่งให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดในคดีนี้อีกต่อไป จึงขอถอนฎีกาโปรดอนุญาต
หมายเหตุ ผู้ร้องได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 86 แผ่นที่ 2)คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยชำระหนี้ 437,500 บาท พร้อมดอกเบี้ย 21,452 บาท แก่โจทก์ภายใน 1 เดือนนับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดทรัพย์ที่ดินโฉนดเลขที่ 26940 ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมืองพัทลุงจังหวัดพัทลุง เพื่อขายทอดตลาดเอาชำระหนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าที่ดินที่โจทก์นำยึดมิใช่ของจำเลยแต่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องแม้ผู้ร้องจะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการประเภทไม่จำกัดความรับผิดของจำเลยผู้ร้องก็มิได้ถูกฟ้องและมีคำพิพากษาให้ร่วมรับผิดกับจำเลยโจทก์จึงไม่อาจนำยึดที่ดินของผู้ร้องได้ ขอให้ศาลสั่งถอนการยึดที่ดินพิพาท โจทก์ยื่นคำคัดค้าน ต่อมาโจทก์และผู้ร้องแถลงรับกันว่าโจทก์นำยึดที่พิพาทโดยมิได้ฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลย ผู้ร้องรับว่าผู้ร้องเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดของจำเลย แล้วโจทก์จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยว่า โจทก์มีสิทธินำยึดที่ดินพิพาทโดยโจทก์ไม่ต้องฟ้องผู้ร้องได้หรือไม่ โดยทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจสืบพยาน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ปล่อยที่ดินโฉนดเลขที่ 26940ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา (อันดับ 51)
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จ และส่งไปศาลชั้นต้นเพื่ออ่านให้โจทก์และผู้ร้องฟังแล้ว ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาโจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว ศาลชั้นต้นให้ส่งสำนวนพร้อมของคำพิพากษาคืนศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง (อันดับ 76,92)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้โจทก์ถอนฎีกาได้ ให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความศาลฎีกา คืนค่าขึ้นศาลให้สามในสี่
