คำสั่งคำร้องที่ 2647/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา โจทก์เห็นว่า คดีนี้ไม่มีเหตุผลสมควรที่จะให้ทุเลาการบังคับได้ประกอบกับทรัพย์ต่าง ๆ ทั้งหมดที่พิพาทในคดีนี้ จำเลยเป็นผู้เก็บไว้ทั้งหมด และขณะนี้โจทก์ก็ไม่ทราบว่าจำเลยได้จำหน่ายจ่ายโอนหรือก่อภาระติดพันเกี่ยวกับ ทรัพย์สินดังกล่าวไปอย่างใดบ้าง หากศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์ ชนะคดีก็อาจไม่มีทรัพย์ที่โจทก์จะบังคับคดีได้ จึงขอศาลฎีกา ได้โปรดมีคำสั่งให้จำเลยนำหลักทรัพย์เท่ากับทุนทรัพย์ที่โจทก์ ได้ยื่นฎีกาให้จำเลยชำระให้แก่โจทก์จำนวน 36,510,000 บาท มาวางต่อศาลเป็นประกันในระหว่างที่ศาลฎีกายังมิได้มีคำพิพากษา โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 183 แผ่นที่ 4)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ได้ถึงแก่กรรมนางซุ่ยเง็กแซ่โซว ซึ่งเป็นมารดาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ ขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ ศาลอุทธรณ์อนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดก ของนายปรีดาใยมณี แก่โจทก์ในฐานเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ร่วมด้วยผู้หนึ่งจำนวน 6,240,000 บาท
โจทก์และจำเลยต่างฎีกา (อันดับ 165,161)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 176)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว การที่โจทก์ขอให้จำเลยนำหลักทรัพย์ เท่ากับทุนทรัพย์ที่โจทก์ฎีกามาวางศาลในระหว่างการพิจารณาของ ศาลฎีกา มีผลเท่ากับบังคับให้จำเลยหาประกันมาวางศาลเพื่อโจทก์ จะบังคับคดีเอาแก่หลักทรัพย์ที่จำเลยนำมาวางศาลได้หากโจทก์ ชนะคดีตามที่ฎีกา แต่การร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่าง การพิจารณา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 นั้น จะต้องเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องขอ เพื่อให้ทรัพย์สิน สิทธิหรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่พิพาทกันได้รับความ คุ้มครองไว้จนกว่าศาลจะได้มีคำพิพากษา ดังนั้น โจทก์จะขอ ให้จำเลยนำหลักทรัพย์มาวางศาลตามมาตรานี้ไม่ได้ ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share