คำสั่งคำร้องที่ 2622/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ไม่เกิน 5 ปีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2และที่ 4 เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรค 1จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4
จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 เห็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 วรรคแรกโปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 155)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11,62 วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ปรับคนละ 1,800 บาท กระทงหนึ่ง ฐานเข้ามาในราชอาณาจักรโดย ไม่ได้รับอนุญาตให้ปรับคนละ 1,800 บาท กระทงหนึ่ง จำเลยที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองฯ มาตรา 11,62 วรรคหนึ่ง ฐานเข้ามาในราชอาณาจักรโดย ไม่ได้รับอนุญาตให้จำคุก 1 เดือน กระทงหนึ่ง จำเลยทั้งสี่ มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26,75 วรรคหนึ่ง,76 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ฐานร่วมกันมีกัญชาไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันนำกัญชาเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานนำกัญชาเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุกคนละ 2 ปี กระทงหนึ่ง รวมจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 คนละ 2 ปี กับปรับจำเลยที่ 1ที่ 2 และที่ 4 คนละ 3,600 บาท จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด2 ปี 1 เดือน จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้างเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เห็นสมควรลดโทษให้จำเลยทั้งสี่ กระทงละหนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2และที่ 4 คนละ 1 ปี 4 เดือน ปรับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4คนละ 2,400 บาท จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 1 ปี 4 เดือน 20 วัน ไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ ฐานนำกัญชาอันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5เข้ามาในราชอาณาจักร จำคุกจำเลยทั้งสี่คนละ 4 ปี รวมเป็นโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 คนละ 4 ปี ปรับคนละ 3,600 บาท จำเลยทั้งสี่ให้การ รับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษ ให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงลงโทษ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4จำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือน ปรับคนละ 2,400 บาท และจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 2 ปี 8 เดือน สำหรับข้อหาความผิดของจำเลยที่ 3 ฐานเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 เดือน จำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 15 วัน รวมโทษจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 2 ปี 8 เดือน 15 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 154)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 155)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน ปรับคนละ 2,400 บาท ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำคุก จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 คนละ 2 ปี 8 เดือน ปรับคนละ 2,400 บาท โดยมิได้แก้บทลงโทษ ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่งมิใช่กรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share