คำสั่งคำร้องที่ 251/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า รับอุทธรณ์เฉพาะข้อ 6.1และ 6.2 ส่วนอุทธรณ์ข้ออื่นนั้น เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานเป็นข้อเท็จจริง จึงไม่รับอุทธรณ์ข้ออื่นของโจทก์ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 54
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ข้อ 6.3 ถึงข้อ 6.7 ที่ว่า ประเด็นที่ศาลวินิจฉัยไม่ใช่ประเด็นโดยตรงแห่งคดี อีกทั้งการที่ศาลฟังข้อเท็จจริงไม่หมดและฟังพยานที่ไม่มาเบิกความที่ศาลมาประกอบการใช้ดุลพินิจของศาลเป็นการมิชอบด้วยกฎหมาย อุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้น โปรดรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 64)
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าชดเชย เงินบำเหน็จ เงินบำนาญ ค่าเสียหายเนื่องจากการเลิกจ้าง เงินโบนัส เงินสวัสดิสงเคราะห์ และค่าเสียหายต่าง ๆ ให้โจทก์รวม6,125,722 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จและเงินบำนาญเดือนละ 24,768 บาททุกเดือน นับแต่เดือนฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าโจทก์เสียชีวิต
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์บางข้อดังกล่าว (อันดับ 56)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 62)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ข้อ 6.3-6.7 ได้โต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมาจากพยานหลักฐานในสำนวน โดยอ้างว่าศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงไม่ยุติ ฟังข้อเท็จจริงผิดไปจากความจริง รับฟังพยานบอกเล่า รับฟังพยานบุคคลที่เบิกความไม่ตรงต่อความเป็นจริง รับฟังพยานเอกสารที่มีพิรุธ และรับฟังพยานหลักฐานไม่ตรงประเด็นแห่งคดี ซึ่งเป็นการรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ชอบศาลแรงงานกลางควรฟังพยานหลักฐานเพิ่มเติมและฟังข้อเท็จจริงเป็นอีกอย่างหนึ่งตามที่โจทก์อุทธรณ์นั้น เป็นการคัดค้านว่าศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงที่ไม่สมควรจะฟัง ถือเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ข้อ 6.3-6.7 นั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share