แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ทั้งสองและจำเลยตกลงกันให้ศาลชั้นต้นถอนคำสั่งอันเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา โดยจำเลยเสนอหนังสือค้ำประกันของธนาคารซึ่งเป็นบุคคลภายนอกยอมผูกพันเพื่อการชำระหนี้ตามคำพิพากษาโดยเงื่อนไขว่าหากคดีถึงที่สุดแล้ว จำเลยเป็นฝ่ายแพ้คดี ธนาคารจึงต้องผูกพันตามข้อความในหนังสือค้ำประกันดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274 กรณีไม่อาจถือว่าการเข้าค้ำประกันของธนาคารต่อศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา เป็นคำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา อันจะมีผลยกเลิกไปเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์แพ้คดี ตามมาตรา 260 (1)
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ค่าที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขาย กับหนี้ค่าถมดิน ไฟฟ้า ประปา สำนักงาน และหนี้อื่น ๆ แก่โจทก์ทั้งสองรวมเป็นเงิน ๑๖,๖๔๔,๒๒๘ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๗ ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น จำเลยให้การ
ขอให้ยกฟ้อง ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามจำเลยโอนหรือกระทำนิติกรรมใด ๆ ในที่ดินของจำเลย ๑๗๕ โฉนด เป็นการชั่วคราวก่อนพิพากษาตามคำขอของโจทก์ ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ระหว่างการไต่สวน โจทก์ทั้งสองกับจำเลยได้มีการเจรจากันและศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนการห้ามชั่วคราวที่ดินดังกล่าว ๕๐ โฉนด โดยใช้บุคคลค้ำประกันจนกว่าจำเลยจะนำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาเป็นประกันตามที่โจทก์ทั้งสองและจำเลยตกลงกัน ภายหลังศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนการห้ามชั่วคราวที่ดิน ๑๒๕ โฉนด ที่เหลือ โดยจำเลยนำหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาพิษณุโลก ซึ่งมีใจความว่า การที่โจทก์ทั้งสองฟ้องจำเลยให้รับผิดเป็นจำนวน ๑๖,๖๔๔,๒๒๘ บาท นั้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาพิษณุโลก ขอค้ำประกันจำเลยต่อศาลชั้นต้นว่า เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว หากจำเลยแพ้คดีและไม่สามารถชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้โจทก์ได้ ธนาคารยอมชำระเงินไม่เกิน ๑๖,๖๔๔,๒๒๘ บาท แทนจำเลย วางเป็นประกันแทนสัญญาค้ำประกันด้วยบุคคลตามที่โจทก์ทั้งสองและจำเลยตกลงกัน ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์ทั้งสองยื่นอุทธรณ์
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาพิษณุโลก ที่วางเป็นประกัน
โจทก์ทั้งสองแถลงคัดค้านว่า จำเลยไม่ควรขอหนังสือค้ำประกันคืนก่อนคำพิพากษาถึงที่สุด ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การที่จำเลยนำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาเป็นหลักประกัน ก็สืบเนื่องจากคำสั่งศาลชั้นต้นเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ จำเลยจึงเป็นฝ่ายชนะคดี โจทก์มิได้ยื่นคำขอเพื่อแสดงว่าโจทก์จะอุทธรณ์คำพิพากษาและมีเหตุอันสมควรที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งให้วิธีการชั่วคราวยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวจึงเป็นอันยกเลิกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๖๐ (๑) จึงมีคำสั่งให้คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงไทย จำกัด ให้แก่จำเลย
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า แม้คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ห้ามมิให้จำเลยโอนหรือกระทำนิติกรรมใด ๆ ในที่ดินของจำเลยรวม ๑๗๕ โฉนด จะเป็นคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา แต่เมื่อจำเลยยื่นคำขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และระหว่างการไต่สวนคำขอของจำเลย โจทก์ทั้งสองและจำเลยได้มีการเจรจาตกลงกัน โดยโจทก์ยอมถอนการอายัดที่ดินทั้งหมด เมื่อจำเลยจัดหาธนาคารมาค้ำประกันการชำระหนี้ตามพิพากษา ต่อมาจำเลยได้นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาพิษณุโลก มีใจความสำคัญว่า เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว หากจำเลยแพ้คดีและไม่สามารถชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ ธนาคารยอมชำระเงินไม่เกิน ๑๖,๖๔๔,๒๒๘ บาท แทนจำเลย ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการอายัดที่ดินทั้งหมดดังกล่าว เห็นได้ว่า คำสั่งอันเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาตามคำขอของโจทก์ทั้งสองได้ถูกเพิกถอนไปแล้ว การที่จำเลยนำหนังสือค้ำประกันมาวางต่อศาลชั้นต้น อันเนื่องมาจากคำขอของจำเลยที่ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งอันเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาตามคำขอของโจทก์ทั้งสอง แล้วมีการเจรจาตกลงกันโดยโจทก์ทั้งสองยอมให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่ง โดยจำเลยต้องนำธนาคารเข้ามาค้ำประกันการชำระหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลย หากจำเลยตกเป็นฝ่ายแพ้คดีในที่สุด การที่จำเลยเสนอหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาพิษณุโลก ต่อศาล จึงเป็นเรื่องที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาพิษณุโลก ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ยอมผูกพันตนโดยทำหนังสือค้ำประกันเพื่อการชำระหนี้ตามคำพิพากษาโดยเงื่อนไขว่า หากคดีถึงที่สุดแล้วจำเลยเป็นฝ่ายแพ้คดี ธนาคารกรุงไทย จำกัด จึงต้องผูกพันตามข้อความในหนังสือค้ำประกันดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗๔ กรณีไม่อาจถือได้ว่าการเข้าค้ำประกันของธนาคารกรุงไทย จำกัด ต่อศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาตามคำขอของโจทก์ทั้งสอง อันจะมีผลยกเลิกไปเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์แพ้คดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๖๐ (๑) ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ พิพากษาให้คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาพิษณุโลก ให้แก่จำเลย ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ทั้งสองฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องขอคืนหนังสือค้ำประกันของจำเลย.