แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 ข้อ 4.1.2 เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลล่างรับฟังข้อเท็จจริงขัดต่อกฎหมายลักษณะพยานหลักฐาน และนายสมมาตร ขวัญทอง ลูกจ้างจำเลยที่ 2ได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 155 แผ่นที่ 3)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินจำนวน21,000 บาท และจำเลยที่ 2 ใช้เงินจำนวน 14,000 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระแล้วเสร็จ
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 147)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 150)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 ข้อ 4.1.2เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ ที่ฟังว่า นายสมมาตร ขวัญทอง ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่ศาลชั้นต้นสั่ง ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ