คำสั่งคำร้องที่ 2396-2406/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่าอุทธรณ์ของจำเลยทุกข้อเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54 ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายซึ่งอุทธรณ์ในข้อ 3 เป็นการโต้แย้งคัดค้านคำสั่งศาลแรงงานกลางที่ได้ดำเนินกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยมีคำสั่งให้งดสืบพยานจำเลย ซึ่งจำเลยได้ยื่นคำร้องโต้แย้งคัดค้านคำสั่งดังกล่าวไว้แล้ว และนอกจากนี้อุทธรณ์ในข้อ 4เป็นการโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางที่ได้มีคำพิพากษาโดยนำพยานหลักฐานที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาว่าด้วยบทบัญญัติการสืบพยานมาวินิจฉัยคดี ซึ่งปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนโปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 50-55)
คดีทั้งสิบเอ็ดสำนวนนี้ ศาลแรงงานกลางพิจารณาพิพากษารวมกันโดยให้เรียกโจทก์ตามลำดับสำนวนว่าโจทก์ที่ 1ถึงโจทก์ที่ 11
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 30,000 บาทแก่โจทก์ที่ 2 จำนวน 18,000 บาท แก่โจทก์ที่ 3 จำนวน 19,500 บาทแก่โจทก์ที่ 4 จำนวน 15,000 บาท แก่โจทก์ที่ 5 จำนวน 15,000 บาทแก่โจทก์ที่ 6 จำนวน 16,500 บาท แก่โจทก์ที่ 7 จำนวน 19,500 บาทแก่โจทก์ที่ 8 จำนวน 19,500 บาท แก่โจทก์ที่ 9 จำนวน 12,000 บาทแก่โจทก์ที่ 10 จำนวน 19,500 บาท และแก่โจทก์ที่ 11 จำนวน 15,000 บาท กับให้จำเลยชำระค่าชดเชยแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 20,000 บาท แก่โจทก์ที่ 2 จำนวน 12,000 บาท แก่โจทก์ที่ 3 จำนวน13,000 บาท แก่โจทก์ที่ 4 จำนวน 10,000 บาท แก่โจทก์ที่ 8 จำนวน 13,000 บาท แก่โจทก์ที่ 9 จำนวน 8,000 บาท และแก่โจทก์ที่ 11 จำนวน 10,000 บาท คำขออื่นของโจทก์ทั้งสิบเอ็ดนอกจากนี้ให้ยกเสีย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 40)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 49)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่อนุญาตให้นายพิเชษฐ์มหันตสุคนธ์ ทนายจำเลยถอนตัวจากการเป็น ทนายความเพราะตัวความไม่ทราบเหตุการถอนตัว อันเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 65 และพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 21 ชอบแล้ว ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า เป็นคำสั่งไม่ชอบ ควรให้เลื่อนคดีไปเพื่อสอบถาม ข้อเท็จจริงจากตัวความก่อนจึงเป็นอุทธรณ์ที่โต้แย้งว่า ศาลแรงงานกลางใช้ดุลพินิจไม่ชอบอันเป็นข้อเท็จจริง
ส่วนคำสั่งของศาลแรงงานกลางที่สั่งงดสืบพยานจำเลยปากนายนิวัฒน์จัตุพรเจริญและนายซองคีนลี เนื่องจากมีข้อเท็จจริงว่า นายนิวัฒน์ไม่ยอมสืบพยานในวันนั้นแต่จะขอเบิกความเมื่อมีทนายจำเลยคนใหม่ และ นาย ซอง คีนลี ไม่มาศาลเพราะไม่ค่อยสบายทั้งที่เคยแถลงต่อศาลว่า จะมาเบิกความในวันนัดแน่นอน ดังนี้ การสั่งงดสืบพยานจำเลย มีลักษณะที่ศาลแรงงานกลาง เห็นว่าเป็นการประวิงคดี จำเลยจะอุทธรณ์ว่า ศาลแรงงานกลาง มีคำสั่งงดสืบพยานจำเลยดังกล่าวไม่ชอบ ย่อมเป็นการโต้เถียง ดุลพินิจของศาลแรงงานกลางอีกเช่นกัน
อุทธรณ์ของจำเลยทุกข้อจึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share