แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีมีทุนทรัพย์เพียง10,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขแล้วฎีกาของโจทก์เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการวินิจฉัยพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวไม่รับฎีกาของโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ที่สำคัญอันควรได้รับการพิจารณาวินิจฉัยจากศาลสูง เพราะเหตุ ว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาโดยได้หยิบยกนำเอาข้อเท็จจริงนอกสำนวนมาวินิจฉัยจึงเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และเป็นการพิจารณาคดีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้ พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 96)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยรื้อถอนต้นไม้และสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาททางด้านทิศตะวันตกของโฉนดเลขที่ 292 ตำบลโพสังโฆอำเภอด่านบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เนื้อที่ประมาณ 3 งานเศษ และห้ามจำเลย และบริวารเข้ามาเกี่ยวข้องในที่ดินดังกล่าวต่อไป
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์โจทก์ได้ถึงแก่กรรม นางสาวกฤษณา นาคสิงห์ เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้มรณะ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 95)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 96)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรกฎีกาโจทก์โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน ของศาล จึงต้องห้าม ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
