คำสั่งคำร้องที่ 2317/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่า คดีนี้ไม่มีเหตุผลสมควรที่จะฎีกา ฉะนั้นหากโจทก์ยังติดใจที่จะฎีกา ก็ให้นำค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาชำระและนำค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันนี้ มิฉะนั้นไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า คดีนี้มีทุนทรัพย์ 1,600,000 บาท ซึ่งไม่ต้องห้ามฎีกาทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 โจทก์มีเหตุผลและมีหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้ศาลเห็นว่า โจทก์เป็นคนยากจนไม่มีเงินที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาลในชั้นฎีกาได้ อีกทั้งคดีของโจทก์ก็มีเหตุผลเพียงพอที่จะฎีกาศาลควรที่จะนัดไต่สวนคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของโจทก์เสียก่อนที่จะมีคำสั่งขอศาลฎีกาได้โปรดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลชั้นต้น โดยให้ดำเนินการไต่สวนคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของโจทก์ต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 162)
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินแก่โจทก์เป็นจำนวน 1,600,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินจำนวน 1,000,000 บาท นับจากวันฟ้องไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระให้โจทก์เสร็จสิ้น ให้โจทก์หรือกรมสรรพากรเข้าตรวจบัญชีของจำเลยทั้งสองโดยค่าใช้จ่ายของจำเลยทั้งสองเองในส่วนผลกำไร-ขาดทุนในส่วนที่โจทก์ฟ้องเท่านั้นศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา(อันดับ 164,163)
ทนายโจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 162)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคดีไม่มีเหตุผลอันสมควรจะฎีกา ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถานั้นชอบแล้วให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์หากโจทก์ยังติดใจจะฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ก็ให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายในกำหนด15 วันนับจากวันทราบคำสั่งนี้

Share