แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา คดีมีทางชนะโจทก์ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 234)
คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันโดยเรียกโจทก์สำนวนหลังซึ่งเป็นจำเลยสำนวนแรกว่าโจทก์ เรียกโจทก์สำนวนแรกซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 สำนวนหลังว่าจำเลยที่ 1เรียกนางลัดดาวัลย์ ทองทิพย์ ว่าจำเลยที่ 2 และเรียกธนาคารทหารไทย จำกัด ว่าจำเลยที่ 3
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ชำระเงินให้โจทก์จำนวน 2,367,524 บาท โดยจำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดไม่เกิน120,000 บาท ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสามชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี เฉพาะจำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้คิดจากต้นเงิน 2,367,524 บาท ส่วนจำเลยที่ 3 ให้คิดจากต้นเงิน120,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 220,219)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ แต่จำเลยไม่นำหลักประกันมาวางภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงถือว่าคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์เป็นอันถูกยกไปตามคำสั่งศาลอุทธรณ์
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยที่ 1 หรือที่ 2 คนใดคนหนึ่งหรือร่วมกันหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยจนถึงวันฟังคำสั่งนี้ และต่อไปอีก 1 ปี มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในชั้นนี้ มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง