แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ชำระหนี้ไม่ได้เพราะวัตถุแห่งหนี้เป็นการ+วิสัยในภายหลังไม่เข้า ม. 379 สัญญา,ค่าเสียหาย คำสัญญา+ทั้งหมดแต่เจ้าพนักงานไม่ทำสัญญาให้เพราะที่บางส่วนมีพระบรมราชวินิจฉัยแบ่งให้ราษฎรดังนี้ถือว่าผู้ขายเป็นฝ่ายผิดสัญญา เพราะตนไม่มีสิทธิบริบูรณ์ในที่ ๆ จะขาย ผู้ซื้อเรียกค่าเสียหายที่ได้เสียไปจริงจังได้
วิธีพิจารณาแพ่ง
วิธีพิจารณาอาชญา ฟ้องว่าหลอกลวงต้องนำสืบเจตนาทุจจริต ฟ้องว่าผิดสัญญา + หลอกลวง เมื่อศาลยกฟ้องความอาชญา พิจารณาความแพ่งต่อไปได้ หน้าที่นำสืนฟ้องเรียกค่าเสียหายโจทก์+สืบว่าได้เสียหายไปจริงเท่าใดจึงจะชนะคดี
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้โจทก์ ๆ ได้วางเงินมัดจำไว้บ้างแล้ว ในสัญญามีว่าถ้าผู้ขายไม่ขายให้ผู้ซื้อ ผู้ขายจะยอมให้ปรับ ฯลฯ ครั้นเมื่อถึงกำหนดจึงไปทำสัญญาซื้อขายกันที่หอทะเบียน เจ้าพนักงานบอกว่าที่ดินบางส่วนขายให้ไม่ได้ เพราะได้มีพระบรมราชวินิจฉัยจัดแบ่งให้ราษฎร โจทก์จึงฟ้องเป็นความแพ่งแลอาชญาปนกันว่าจำเลยหลอกลวงขายที่ให้โจทก์ขอให้ลงโทษแลเรียกค่าเสียหาย ฐานผิดสัญญา
ศาลล่างทั้งสองตัดสินให้ใช่ค่าเสียหายตามสัญญาตาม ป.พ.พ.ม.๓๗๙ และให้คืนเงินมัดจำส่วนข้อหาทางอาชญาให้ยกฟ้อง เพราะสืบเจตนาทุจริตไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้ โจทก์ฟ้องความแพ่งแลอาชญาปนกัน เมื่อยกฟ้องอาชญาของโจทก์ ฟ้องของโจทก์ในคดีแพ่งก็ยังคงเป็นฟ้องอยู่ ศาลพิจารณาต่อไปได้ ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยยอมขายสัญญาแต่ขายไม่ได้ เพราะเจ้าพนักงานไม่ยอมทำสัญญาดังนี้ จำเลยก็คงเป็นฝ่ายผิดสัญญาในฐานที่ตนไม่มีสิทธิบริบูรณ์ในที่ดินที่จะขาย โจทก์มีอำนาจเรียกค่าเสียหายได้แต่ไม่ใช่ค่าเสียหายตามข้อสัญญาที่ตกลงกัน เป็นค่าเสียหายอื่น ๆ ที่โจทก์ได้เสียไป และจะยกเอา ป.พ.พ.ม. ๓๗๙ มาปรับแก่คดีไม่ได้ เพราะเรื่องไม่เข้าบทประมวลแพ่งฯที่กล่าวแล้ว ส่วนค่าเสียหายโจทก์ก็สืบไม่ได้ว่าได้ลงทุนอะไรไปบ้าง จึงตัดสินแก้ศาลล่างให้จำเลยคืนเงินมัดจำให้โจทก์กับดอกเบี้ยนับแต่วันรับเงินมัดจำจนกว่าจะนำเงินวางศาล