คำสั่งคำร้องที่ 2146/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลย เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า จำเลยไม่ได้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่จำเลยฎีกาขอความปรานีศาลเพื่อใช้ดุลยพินิจในการรอการลงโทษแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 45)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7,8 ทวิ วรรคแรก,72 วรรคสาม,72 ทวิวรรคสอง เรียงกระทงลงโทษ ฐานลักทรัพย์ จำคุก 3 เดือน ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง จำคุก 6 เดือน ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ จำคุก 3 เดือน รวมจำคุก 12 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำคุก 6 เดือน
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 42)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 45)

คำสั่ง
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำคุกฐานลักทรัพย์ 3 เดือน ฐานมีปืน 6 เดือน ฐานพาอาวุธปืน 3 เดือน รวมเป็นจำคุก 12 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้ กึ่งหนึ่งคงจำคุก 6 เดือน จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ อันเป็น การฎีกาในดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ภาค 2 จึงเป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย

Share