แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ (ที่ถูกน่าจะเป็นจำเลย) เป็นการฎีกา ในข้อเท็จจริง เมื่อเป็นคดีฟ้องขับไล่บุคคลใด ๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง ไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ซึ่งเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ จึงไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง และฎีกาของจำเลยในประเด็นที่ว่าการยึดถือ ครอบครองที่ดินพิพาทของจำเลยมิได้เป็นการครอบครองแทนโจทก์ แต่เป็นการครอบครองเพื่อตนเองมาตลอด จะเป็นการได้สิทธิ โดยครอบครองปรปักษ์หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 85)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนบ้านเลขที่ 24/2 หมู่ที่ 14 ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานีและบ้านไม่มีเลขที่ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับที่จำเลยได้สร้างขึ้นใหม่ออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 4665 ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ของโจทก์ ห้ามเกี่ยวข้องต่อไป คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 82)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 84)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทซึ่งอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท ย่อมต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสองการที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยมิได้ครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์ ตามคำวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองแต่ครอบครองเพื่อตนนั้น เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาจำเลยจึงต้องห้ามตาม บทบัญญัติดังกล่าว ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ