คำสั่งคำร้องที่ 212/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าคดีนี้แม้ความผิดฐานมีและพาอาวุธปืน ศาลอุทธรณ์จะแก้ไขมากโดยไม่รอการลงโทษจำคุกให้ก็ตาม แต่ก็เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี และศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกำหนดที่ว่ามานี้คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษเป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกาของจำเลยจำเลยเห็นว่า คดีของจำเลยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมากอยู่ในหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงข้างคำร้องว่าได้รับสำเนาแล้ว (อันดับ 37)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ,72,72 ทวิ ฯลฯประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 376,91,32,33 ฯลฯ ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จำคุก 1 ปี ปรับ 6,000 บาท ฐานพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในที่ชุมนุมชน จำคุก 6 เดือนปรับ 3,500 บาท ฐานยิงปืนในหมู่บ้านที่ชุมนุมชน ปรับ 500 บาท รวมลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 9 เดือน ปรับ 5,000บาท พิเคราะห์พฤติการณ์แล้วจำเลยมีผู้รับรองความประพฤติน่าเชื่อถือได้และไม่เคยต้องโทษมาก่อน จึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ปรับในความผิดฐานมีอาวุธปืนส่วนความผิดฐานพาอาวุธปืน ให้จำคุก 1 ปี สถานเดียว จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน รวมกับโทษฐานมีอาวุธปืนและฐานยิงปืนที่ศาลชั้นต้นกำหนดเป็นจำคุก 1 ปี ปรับ250 บาท ไม่รอการลงโทษ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 32)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 37)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะแก้ไขมากดังที่จำเลยกล่าวอ้างก็ตาม แต่ฎีกาของจำเลยซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงก็ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยจึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share