คำสั่งคำร้องที่ 2086/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟัง พยานหลักฐานของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 เป็นการ ฎีกาข้อเท็จจริงไปสู่ปัญหาข้อกฎหมาย จึงเป็นการฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาของจำเลยที่ 1 มีเพียง 35,200 บาท ไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 คืนค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาให้แก่จำเลยที่ 1 ทั้งหมด จำเลยที่ 1 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายที่มีสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันชำระเงิน จำนวน 82,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง (2 มีนาคม 2535) เป็นต้นไปจนกว่าจะ ชำระเสร็จแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 35,200 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 89) จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 88)

คำสั่ง จำเลยที่ 1 ไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน มาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 ก่อน จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ค่าคำร้องให้เป็นพับ

Share