แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 4 ฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว เห็นว่า ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 4 เป็นคนยากจนไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ ให้ยกคำร้อง ของ จำเลยที่ 4 หากจำเลยที่ 4ประสงค์จะดำเนินคดีในชั้นฎีกาต่อไปให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกามาวางศาลภายใน 15 วัน
จำเลยที่ 4 เห็นว่า จำเลยที่ 4 เป็นคนยากจนควรได้รับอนุญาต ให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นฎีกา กล่าวคือจำเลยที่ 4มีรายได้จากการรับบำนาญเดือนละ 5,000 บาท ไม่มีรายได้และ ทรัพย์สินอื่นอีกเลย และสามีจำเลยที่ 4 ถึงแก่กรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 ซึ่งจำเลยที่ 4 มีบุตร 1 คน ซึ่งมีครอบครัวแล้วก็ไม่สามารถช่วยเหลือจำเลยที่ 4 ได้ จำเลยที่ 4 ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวเพียงคนเดียวซึ่งต้องอุปการะเลี้ยงดูยายซึ่งชราภาพด้วย ประกอบกับจำเลยที่ 4 ไม่มีทรัพย์สินอื่นใดที่จะนำมาจำหน่ายเพื่อเอาเงินมาเสียค่าธรรมเนียมศาลในชั้นฎีกาและคดีมีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้จำเลยที่ 4 ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นฎีกาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 151 แผ่นที่ 3)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1, ที่ 2, ที่ 3 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 250,715.33 บาทแก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยทบต้นในอัตราร้อยละ 10.5 ต่อปี สำหรับเงินต้นในวงเงินไม่เกิน260,000 บาท และอัตราร้อยละ 15 ต่อปี สำหรับเงินต้นส่วนที่เกินวงเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 10 มกราคม 2527 จนถึงวันที่10 กรกฎาคม 2527 ต่อจากนั้นให้คิดดอกเบี้ยในอัตราดังกล่าวโดยไม่ทบต้นจนกว่าจะชำระเงินให้โจทก์เสร็จและให้ร่วมกันชำระ เงินจำนวน 100,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2523 ไปจนกว่าจำชำระให้โจทก์เสร็จ ทั้งนี้ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 92,095.83 บาทมิฉะนั้นให้บังคับจำนองยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 17902 ตำบลลาดยาว(บางซื่อฝั่งเหนือ) อำเภอบางเขน (บางซื่อ) กรุงเทพมหานครพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 4 ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ 4 ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์จนครบถ้วน คำขอของโจทก์ นอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 4 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 116,115,146)
จำเลยที่ 4 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 148)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว แม้จะฟังว่าจำเลยที่ 4 เป็นข้าราชการบำนาญมีรายได้ประจำจากเงินบำนาญเดือนละ 5,000 บาท แต่จำเลยที่ 4ก็ยังมีบุตรทำงานในรัฐวิสาหกิจมีรายได้เดือนละ 7,000 บาทพักอาศัยอยู่บ้านเดียวกันจึงน่าจะช่วยเหลือทางด้านการเงินได้บ้าง จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 4 เป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอ จะเสียหายค่าธรรมเนียมในชั้นฎีกา หากจำเลยที่ 4 ยังติดใจที่จะฎีกาต่อไป ก็ให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลในชั้นฎีกามาชำระต่อศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งนี้