คำสั่งคำร้องที่ 2775/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนที่จำเลยอ้างในฎีกาว่า เป็นปัญหาข้อกฎหมายนั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงไม่ใช่ฎีกาข้อกฎหมาย จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และเป็นข้อที่ยกขึ้นมาว่ากันแล้วในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนา คำร้องหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175,177,180 และ 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 มาตรา 177 วรรคสอง เป็นความผิดสองกรรม ลงโทษทุกกรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ฐานฟ้องเท็จให้จำคุก 2 ปี ฐานเบิกความเท็จจำคุก 3 ปี รวมจำคุก 5 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 76)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 87)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยฎีกาอ้างว่า เป็นข้อกฎหมายเพราะจำเลยมิได้เอาความ อันเป็นเท็จฟ้องโจทก์ ในคดีนั้นแม้ศาลจะฟัง ไม่ได้ว่าโจทก์หลอกลวงจำเลยก็มิได้หมายความว่า จำเลยมีเจตนาฟ้องเท็จไม่ และในการเบิกความ ต่อศาลจำเลยก็เบิกความไปตามความจริงนั้น ล้วนเป็นฎีกาโต้เถียงในข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ต้องห้าม มิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา ของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share