แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลย เป็นฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า จำเลยมิได้กระทำผิดตามฟ้องแต่ประการใดและการที่ศาลล่างทั้งสองศาลฟังข้อเท็จจริงจากคำพยานของจำเลยมาลงโทษจำเลยตามมาตรา 357 นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และแม้จะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงแต่ก็เป็นปัญหาข้อเท็จจริงอันควรสู่ศาลสูงเพื่อวินิจฉัยขอให้มีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 39)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก จำคุก 2 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 38)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 39)
คำสั่ง
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ลงโทษ จำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงจากคำพยาน ของจำเลยมาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรกนั้น เป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา ของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง