คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2595/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คำร้องขอพิจารณาใหม่กล่าวแต่เหตุที่จำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาไม่ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลเพื่อให้เห็นว่าหากมีการพิจารณาใหม่จำเลยอาจชนะคดีได้คำของจำเลยไม่ชอบด้วยป.วิ.พ.มาตรา208วรรคท้ายศาลชอบที่จะยกคำร้องได้โดยไม่ต้องไต่สวน.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดพิจารณาและสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากตึกแถวพิพาทและชำระค่าเสียหายจำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อ้างว่าเสมียนทนายผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยให้ฟังคำสั่งและกำหนดวันนัดพิจารณาแทนได้ลงเวลานัดในสมุดนัดความของทนายจำเลยผิดไปเป็นว่าศาลนัดสืบพยานโจทก์เวลา 13.30 นาฬิกา จำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง ครั้นถึงวันนัดศาลชั้นต้นเห็นว่าคำร้องขอให้พิจารณาใหม่มิได้มีข้อความคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208วรรคท้าย ไม่จำต้องไต่สวนคำร้องต่อไปจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คำขอให้พิจารณาใหม่นั้น คู่ความจะต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้ง ซึ่งเหตุที่คู่ความได้ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคท้าย คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยดังกล่าว ถึงเหตุที่จำเลยขาดนัดเพียงประการเดียวว่า จำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาทั้งนี้เพราะเสมียนทนายผู้รับมอบฉันทะลงเวลานัดของศาลในสมุดนัดความของทนายจำเลยผิดพลาดไป จำเลยจึงมิได้ร้องขอเลื่อนคดีเสียก่อนที่ศาลลงมือสืบพยาน มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล เพื่อให้เห็นว่าหากมีการพิจารณาใหม่จำเลยอาชนะคดีได้ คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคท้ายที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน โจทก์ทั้งสองทำคำแก้ฎีกาเองจึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นฎีกาให้”.

Share