คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ระเบียบของกระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีวางระเบียบไว้ว่าลูกจ้างคนใดต้องหาคดีอาญาและถูกควบคุมตัว ก็ให้กรม กองเจ้าสังกัดต่าง ๆ สั่งพักงานลูกจ้างนั้นไว้ก่อน ไม่ให้ไล่ออกทันที ดังนี้ จำเลยซึ่งเป็นกรมเจ้าสังกัดจะต้องปฏิบัติตามระเบียบ ระเบียบเดิมของจำเลยที่ขัดกับระเบียบของกระทรวงการคลังเป็นอันถูกยกเลิกไปในตัว การที่จำเลยอุทธรณ์ระเบียบของจำเลยไปกระทรวงการคลังว่า ขัดกับระเบียบของจำเลย แต่กระทรวงการคลังได้ตอบยืนยันไม่ยอมให้ถือระเบียบของจำเลย การที่จำเลยมีคำสั่งในระหว่างอุทธรณ์ระเบียบให้ไล่โจทก์ออกย้อนไปถึงวันโจทก์ถูกกล่าวหาและถูกจับกุม จึงเป็นการไม่ชอบด้วยระเบียบ
เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ทราบคำสั่งให้ไล่ออกของจำเลยนับถือวันฟ้องเกิน 1 ป คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นข้าราชการประเภทลูกจ้างของกรมชลประทานจำเลยค่าจ้างรายวัน ๆ ละ ๒๗ บาท ๑๙ สตางค์ รับราชการมาถึงวันฟ้อง ๙ ปี ๗ เดือน ๑๖ วัน มีสิทธิรับเงินบำเหน็จตามกฎหมาย วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๕ โจทก์ถูกจับกุมคุมขังและถูกฟ้องฐานปล้นฆ่าคนตายซึ่งถึงที่สุดโดยศาลทหารกรุงเทพพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ไปรายงานตัวขอกลับเข้าทำงาน จำเลยปฏิเสธว่ากรมมีคำสั่งไล่โจทก์ออกจากงานแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๕ คำสั่งจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้จำเลยจ่ายค่าจ้าง ๑๑,๕๘๒.๙๔ บาท กับดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ตามระเบียบอันเป็นคำสั่งของจำเลย โจทก์จะต้องรายงานต้องคดีและยื่นใบลากิจ โจทก์เพิกเฉย ถือว่าโจทก์ขัดคำสั่ง จึงสั่งไล่ออก ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินค่าจ้าง ๑๑,๕๘๒.๙๔ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งนับแต่วันฟ้อง ส่วนค่าบำเหน็จโจทก์ยังไม่มีสิทธิได้รับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พยานจำเลยยอมรับว่ามีระเบียบกระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี วางระเบียบไว้ว่า ลูกจ้างคนใดต้องหาคดีอาญาและถูกควบคุมตัว ก็ให้กรมกองเจ้าสังกัดต่าง ๆ ตลอดจนกรมชลประทานจำเลยสั่งพักลูกจ้างนั้นไว้ก่อนไม่ให้ไล่ออกทันที ดังนี้ จำเลยต้องปฏิบัติตามระเบียบนั้น ระเบียบเดิมของจำเลยที่ขัดกับระเบียบกระทรวงการคลังเป็นอันถูกยกเลิกไปในตัว จริงอยู่จำเลยได้อุทธรณ์ระเบียบไปกระทรวงการคลังว่าขัดกับระเบียบของกรมชลประทานแต่กระทรวงการคลังก็ได้ตอบยืนยันไม่ยอมให้ถือระเบียบของกรมชลประทาน การที่จำเลยมีคำสั่งในระหว่างอุทธรณ์ระเบียบไปยังกระทรวงการคลัง ให้ไล่โจทก์ออกย้อนหลังไปถึงวันถูกกล่าวหาและถูกจับกุม จึงเป็นการไม่ชอบด้วยระเบียบดังกล่าว
จำเลยฎีกาว่า จำเลยไล่โจทก์ออกเพราะขัดต่อคำสั่ง ไม่ใช่ไล่ออกเพราะโจทก์ต้องหาคดีอาญา เห็นว่าเป็นเรื่องเบี่ยงบ่ายไม่ปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงการคลัง ต้องถือว่าคำสั่งให้ไล่โจทก์ออกเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ
ในข้อที่ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความเพราะฟ้องเกิน ๑ ปี นับแต่มูลละเมิดเกิดขึ้นนั้น คดีฟังไม่ได้ว่าโจทก์ทราบคำสั่งที่ให้ไล่โจทก์ออกนับถึงวันฟ้องเกิน ๑ ปี คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน.

Share