คำสั่งคำร้องที่ 1539/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยใน ข้อ 2.1 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ส่วนข้อ 2.2จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในเรื่องดังกล่าวไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249จึงไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยในข้อ 2.1 ที่ว่า การแปลความหมายแห่งสัญญาเช่าจะต้องห้ามมิให้อุทธรณ์หรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนฎีกาข้อ 2.2 ที่ว่า การบอกเลิกการเช่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากบ้านเลขที่ 932 ซอยศรีย่าน3แขวงถนนนครไชยศรีเขตดุสิต กรุงเทพมหานครและที่ดินโฉนดเลขที่ 6298 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และใช้ค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 1,000 บาท แก่โจทก์ นับแต่วันฟ้อง (25 ตุลาคม 2532) เป็นต้นไปจนกว่า จำเลยและบริวารจะออกจากบ้านและที่ดินดังกล่าว
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 80)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวง มาวางศาลภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่ง ให้ส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งต่อไป (อันดับ 77,85)

คำสั่ง
จำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ก่อน จึงให้ ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย ค่าคำร้องให้เป็นพับ

Share