คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ช. เป็นผู้นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของ ช. ขอให้ธนาคารเรียกเก็บเงินจากจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่าย ช. จึงเป็นผู้ทรงเช็คในฐานะเป็นผู้มีเช็คไว้ในครอบครองโดยฐานเป็นผู้รับเงิน และเป็นผู้ถือเช็คฉบับนี้ด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 904
ความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คหรือฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชีอันจะพึงจ่ายให้ได้นั้นสารสำคัญอยู่ที่วันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค เมื่อวันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน ช. เป็นผู้ทรงเช็ค ช. จึงเป็นผู้เสียหาย แม้เดิมจำเลยจะได้ออกเช็คพิพาทให้ ว. ว. ก็มิใช่ผู้เสียหาย ตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และไม่มีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขาสะพานดำมอบให้แก่นายวีระพงษ์ แซ่เตีย เป็นการชำระหนี้ ต่อมานายวีระพงษ์ผู้ทรงเช็คได้นำเช็คไปเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด เพื่อเรียกเก็บเงินจากธนาคารไทยพัฒนาจำกัด ฯ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ทั้งนี้จำเลยได้ออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น และออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่ออกเช็คนั้น นายวีระพงษ์ผู้ทรงเช็คผู้เสียหายได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีแก่จำเลย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗มาตรา ๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลอาญาพิจารณาแล้วพิพากษาลงโทษ
จำเลยอุทธรณ์ว่า นายวีระพงษ์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีสิทธิร้องทุกข์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นายวีระพงษ์ไม่ใช่ผู้เสียหายและไม่มีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน การสอบสวนไม่ชอบ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ออกเช็คฉบับพิพาทให้นายวีระพงษ์เนื่องจากการเล่นแชร์ การออกเช็คไม่ได้ลงวันที่ เดือน ปี วันเดือนปีในเช็คพิพาทนายวีระพงษ์เป็นผู้ลงเองโดยมิได้แจ้งให้จำเลยทราบ เพราะจำเลยสั่งไว้ว่าต้องการเงินเมื่อใดให้เติมวันเดือนปีเอาเอง นายชรินเป็นผู้นำเช็ครายพิพาทเข้าบัญชีของนายชรินเรียกเก็บเงินจากจำเลย แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ แล้ววินิจฉัยว่า
เช็คตามเอกสารหมาย จ.๑ เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ นายชรินเป็นผู้นำเช็ครายพิพาทไปเข้าบัญชีของนายชริน ขอให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด เรียกเก็บจากจำเลยให้ นายชรินจึงเป็นผู้ทรงเช็คในฐานะเป็นผู้มีเช็คไว้ในครอบครองโดยฐานเป็นผู้รับเงิน และเป็นผู้ถือเช็คฉบับนี้ด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๐๔ ความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะมิให้มีการใช้เงินตามเช็ค หรือฐานออกเช็คไม่มีเงินในบัญชีอันจะพึงจ่ายให้ได้นั้นสารสำคัญอยู่ที่วันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค เมื่อวันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงินนายชรินเป็นผู้ทรงเช็ค นายชรินจึงเป็นผู้เสียหาย ฉะนั้น นายวีระพงษ์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามความหมายของบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒(๔) นายวีระพงษ์จึงไม่มีอำนาจร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวน เมื่อการสอบสวนไม่ชอบ พนักงานอัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๓๘/๒๕๑๓ พนักงานอัยการกรมอัยการ โจทก์ นายจำรัสโพธิ์ดี จำเลย พิพากษายืน

Share