แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากโจทก์ถึงแก่ความตายด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2531 ปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายใบมรณะบัตรท้ายคำร้อง ผู้ร้องในฐานะทายาทซึ่งเป็นบุตรของโจทก์และเป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทในคดีนี้ มีความประสงค์ขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ เพื่อดำเนินคดีต่อไป โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ทนายจำเลยที่ 1 ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 191)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามจัดการเพิกถอนสัญญาซื้อขายและสัญญาจำนองที่ดินเฉพาะส่วนโฉนดเลขที่ 4819ตำบลบางเอน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี แล้วให้จำเลยที่ 1 โอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ หากจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติตามก็ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ฎีกา (อันดับ 160)
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จและส่งไปศาลชั้นต้นเพื่อนัดคู่ความฟังแล้ว ก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 191) ศาลชั้นต้นได้สอบทนายโจทก์ทนายจำเลยที่ 3 และผู้ร้องแล้ว ต่างแถลงรับร่วมกันว่าโจทก์เป็นบิดาผู้ร้องและได้ถึงแก่กรรมจริง ศาลชั้นต้นจึงให้ส่งคำร้องพร้อมสำนวนมาศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง (อันดับ 194)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้นางสาวสำราญ โกมลสิงห์ผู้ร้องซึ่งเป็นทายาทของโจทก์ผู้มรณะ เข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้มรณะได้ตามคำร้อง
