คำสั่งคำร้องที่ 1780/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของ โจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อทุนทรัพย์ที่พิพาท ไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคหนึ่ง ไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา
โจทก์เห็นว่า โจทก์ฎีกาในปัญหาที่ว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้แก้ไขประเด็นพิพาทในคดี ภายหลังจากที่ได้กำหนดไว้แล้ว และศาลชั้นต้น ได้นัดสืบพยานโจทก์ไปแล้วถึง 4 นัด การแก้ไข ประเด็นพิพาทเป็นการแก้ไขภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาคดีอาญาและคดีอาญาดังกล่าว ได้ถึงที่สุดแล้ว เป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ประเด็นพิพาทในทางแพ่งให้สอดคล้องต้องกัน กับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางอาญานั้น ไม่น่า จะกระทำได้แม้จะไม่มีกฎหมายห้ามไว้เพราะทำให้คู่ความเสียหาย และได้รับ ความกระทบกระเทือน ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหา ข้อกฎหมาย และที่โจทก์ฎีกา ในปัญหา ที่ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางอาญานั้น เป็นข้อเท็จจริง ที่ไม่สามารถที่จะนำมาพิจารณาพิพากษาในทางแพ่งได้ เพราะประเด็นในทางอาญาและในทางแพ่งไม่ตรงกันทั้งหมด มีข้อเท็จจริงบางประการ ที่จะต้องมีพยานหลักฐานมานำสืบเสียก่อน จึงจะ สามารถทราบข้อเท็จจริงได้ และข้อเท็จจริงที่ยัง ไม่ปรากฏก็เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นประเด็นพิพาท ซึ่งศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นไว้ในครั้งแรกแล้ว ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงในภายหลัง ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายเช่นเดียวกัน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้อง แล้ว (อันดับ 37 แผ่นที่ 2)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยทั้งสองพร้อมบริวารออกจากที่ดินพิพาท ห้ามเข้าเกี่ยวข้องอีกต่อไปและพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครอง ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 10,000 บาท นับจาก ปี 2534 เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะส่งมอบ นาพิพาทคืนโจทก์ในสภาพเรียบร้อย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 34)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 36)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาโจทก์ข้อที่ 2.2 ที่ว่า ข้อเท็จจริงในคดีอาญาเป็นประเด็นเกี่ยวกับ ข้อเท็จจริงในคดีแพ่งเรื่องนี้หรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน 200,000 บาท ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคแรก
ส่วนฎีกาข้อที่ 2.1 ที่ว่า ศาลไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลง ประเด็นข้อพิพาทนั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่คดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงยุติแล้ว การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย ดังกล่าวไม่ ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด จึงเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควร ได้รับการวินิจฉัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ให้ยกคำร้อง

Share