แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกาจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 เห็นว่า ฎีกาที่ว่า นับตั้งแต่จำเลยที่ 2ยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ที่ดินพิพาทในคดีก่อนจนถึงปัจจุบันนี้ จำเลยที่ 2 ยังคงครอบครองที่พิพาทตลอดมาเป็นเวลาเกินกว่าสิบปีแล้ว จำเลยที่ 2 ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทด้วยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2 ด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 และบริวารออกจากที่ดิน โฉนดเลขที่ 5507 และโฉนดเลขที่ 5524 ตำบลคูบัวเหนืออำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ในส่วนที่เป็นของเด็กหญิง(นาง) ยุพินชื่นกลมรัก ให้จำเลยที่ 2 ส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 5507 และโฉนดเลขที่ 5524 ตำบลคูบัวเหนือ อำเภอเมืองจังหวัดราชบุรี แก่โจทก์เพื่อแบ่งแยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 77)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 80)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า จำเลยที่ 2 ครอบครองที่พิพาททั้งสองช่วง คือ ก่อนศาลฎีกาพิพากษาและหลังจากศาลฎีกา พิพากษาแล้ว นับรวมกันแล้วเกินสิบปีจึงได้กรรมสิทธิ์โดย การครอบครองเห็นว่า จำเลยที่ 2 ฎีกาโต้เถียงเรื่องการนับ ระยะเวลาว่าสามารถนับติดต่อกันได้หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ให้รับฎีกาจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณา