คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3183/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยเดินเข้าไปในที่เกิดเหตุพร้อมกับ ก. และ ฉ.ซึ่งเคยมีเรื่องชกต่อยกับผู้เสียหายเมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งจำเลยรู้เรื่องดีอยู่แล้ว ก. ชกต่อยผู้เสียหายและจับตัวผู้เสียหายให้ฉ. ใช้มีดฟันผู้เสียหายที่ศีรษะ จนได้รับอันตรายสาหัส ส่วนจำเลยเข้าไปยืนชิดตัว ช.เพื่อนผู้เสียหายไม่เปิดโอกาสให้ช.เข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย หลังเกิดเหตุแล้ว ก. ฉ. และจำเลยเดินกลับไปด้วยกัน เช่นนี้แสดงให้เห็นว่า จำเลยร่วมกระทำความผิดกับ ก. และ ฉ. โดยแบ่งแยกหน้าที่กันทำ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 2 คน ร่วมกันชกต่อยและใช้มีดฟันทำร้ายนายสมพรหรือเหน่ง โคตรภูธร ผู้เสียหายหลายครั้ง เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297, 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297, 83 จำคุก 4 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังได้ว่า วันเกิดเหตุผู้เสียหายนั่งดื่มสุราอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้านกับนายนิดและนายชัยรัตน์ระหว่างนั้นจำเลย นายโก๊และนายฉ่ำพากันเดินมาที่โต๊ะที่ผู้เสียหายกับพวกนั่งดื่มสุรา นายโก๊ถามว่าคนไหนชื่อเหน่ง เมื่อผู้เสียหายบอกว่าผู้เสียหายเอง นายโก๊ต่อยผู้เสียหายที่ใบหน้า 1 ครั้งเมื่อผู้เสียหายลุกขึ้นสู้ นายโก๊กอดผู้เสียหายไว้ นายฉ่ำเดินเข้ามาใช้มีดสั้นรวมทั้งด้ามยาวประมาณ 2 คืน ฟันผู้เสียหายที่ศีรษะ 4 ถึง 5 ครั้ง ผู้เสียหายมีเลือดออกหน้ามืดพยายามดิ้นจนหลุด ระหว่างที่นายโก๊และนายฉ่ำทำร้ายผู้เสียหายนั้นจำเลยยืนคุมตัวนายชัยรัตน์ไม่ให้เข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย การที่จำเลยเดินเข้าไปในที่เกิดเหตุพร้อมกับนายฉ่ำซึ่งเคยมีเรื่องชกต่อยกับผู้เสียหายเมื่อ 2 วัน ก่อนเกิดเหตุซึ่งจำเลยรู้เรื่องดีอยู่แล้ว นายโก๊ชกต่อยผู้เสียหายและจับตัวผู้เสียหายให้นายฉ่ำใช้มีดฟันที่ศีรษะจนได้รับอันตรายสาหัส ส่วนจำเลยเข้าไปยืนชิดตัวนายชัยรัตน์ไม่เปิดโอกาสให้นายชัยรัตน์เข้าช่วยเหลือผู้เสียหายหลังเกิดเหตุแล้ว นายโก๊นายฉ่ำและจำเลยเกินกลับไปด้วยกันเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า จำเลยร่วมกระทำความผิดกับนายโก๊และนายฉ่ำโดยแบ่งแยกหน้าที่กันทำ
พิพากษากลับให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share