แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกาในปัญหาข้อที่ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาที่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคแรก จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ที่ 3
จำเลยที่ 2 ที่ 3 เห็นว่า ฎีกาในประเด็นข้อพิพาทข้อ 2ที่ว่า จำเลยทั้งสามปฏิบัติผิดสัญญาต่อโจทก์หรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนและได้ว่ากล่าวกันมาแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้น โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ไว้วินิจฉัยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชำระเงิน 15,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง (วันที่ 24 มกราคม2535) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 42)
จำเลยที่ 2 ที่ 3 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 44)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยที่ 2 ที่ 3ว่าสัญญาหมั้นเป็นโมฆะเพราะจำเลยที่ 1 อายุ 16 ปีนั้นจำเลยที่ 2 ที่ 3 มิได้ให้การต่อสู้คดีไว้ และศาลชั้นต้น ก็ ได้ สั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามในเรื่องอายุของจำเลยที่ 1แล้ว ปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวไม่ได้รวมอยู่ในประเด็นข้อ 2ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงดังที่จำเลยที่ 2 ที่ 3 กล่าวอ้าง ถือได้ว่าฎีกาของจำเลยที่ 2 ที่ 3 เป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจำเลยที่ 2 ที่ 3 นั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ