แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์ พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลชั้นต้นสั่งอุทธรณ์ว่าอุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหา ข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธี พิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54จึง ไม่รับอุทธรณ์ และสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับว่า ศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ จึงไม่มีเหตุที่จะทุเลาการบังคับคดี ไม่รับคำร้อง
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่ จำเลยเลิกจ้างโจทก์เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 49 หรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์และคำร้องขอทุเลาการบังคับ ของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 84)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย 114,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 29 เมษายน 2534 เป็นต้นไป สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 19,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่ วันฟ้อง (วันที่ 6 มิถุนายน 2534) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และค่าเสียหายจำนวน 35,000 บาท กับให้จำเลยออกใบสำคัญ การผ่านงานให้แก่โจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลชั้นต้นมี คำสั่งไม่รับอุทธรณ์และคำร้องขอทุเลาการบังคับดังกล่าว(อันดับ 80,81)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 84)
คำสั่ง
อุทธรณ์ของจำเลยโต้แย้งคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลฎีกา ฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่น เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณา คดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง