คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 328/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตารางค่าธรรมเนียม ศาลเคยชี้ขาดว่าโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันในคดีที่โจทก์เป็นจำเลยและ จำเลยเป็นผู้ร้องขัดทรัพย์แล้ว เมื่อโจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องหุ้นส่วนศาลก็ต้องถือข้อเท็จจริงตามคดีก่อน แต่คดีก่อนนั้นไม่มีผลผูกมัดคนภายนอกที่จะอ้างว่า เป็นหุ้นส่วนด้วย ค่าคำบังคับชั้น ฎีกานั้นต้องเรียกตามรายตัวบุคคล

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์มีหุ้นส่วนในโรงเรียนราชบุรีราชวิทยาลัย บัดนี้หุ้นส่วนไม่สามารถดำรงต่อไปได้ ขอให้ศาลสั่งเลิกและชำระบัญชีจำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลยผู้เดียวผู้ร้องสอดอีก ๕ คนร้องว่าตนเป็นหุ้นส่วนด้วยและคดีได้ความว่า ตามคำร้องชั้นขัดทรัพย์ในคดีแดงที่ ๒๗๐/๒๔๗๓ ซึ่งโจทก์ในคดีนี้เป็น จำเลยและจำเลยในคดีนี้เป็นผู้ร้องขัดทรัพย์นั้นชี้ขาดว่าจำเลยและผู้ร้องสอดเป็นหุ้นส่วนกัน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่าโจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดเป็นหุ้นส่วนกันพิพากษาให้เลิกหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญชี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ศาลล่างถือเอาคำสั่งในคดีก่อนเป็นหลักวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันนั้นชอบแล้ว เพราะโจทก์จำเลยเป็นคู่ความในคดีนั้นและประเด็นข้อวินิจฉัยเป็นอย่างเดียวกัน แต่ในคดีก่อนไม่ได้ชี้ขาดว่าผู้เป็นหุ้นส่วนมีฉะเพาะ ๓ คน และทั้งผู้ร้องสอดไม่ใช่คู่ความในคดีนั้น และไม่มีประเด็นที่ ศาลจะวินิจฉัยถึง ฉะนั้นคำชี้ขาดของศาลล่างในข้อนี้จึงชอบด้วยกฎหมายส่วนคำคัดค้านเรื่อง ศาลชั้นต้นเรียกค่าคำบังคับโจทก์และผู้ร้องสอดจากจำเลยเป็นรายตัวรวม ๗ คนนั้นศาลฎีกาเห็นว่า ศาลล่างเรียกมาถูกแล้วให้บังคับคดีไปตามศาลแพ่ง

Share