แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีทางที่จะชนะคดี ถ้าหากมีการบังคับ ในขณะนี้แล้ว จะทำให้จำเลยได้รับความเสียหายโปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และผู้ซื้อทรัพย์ ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 58)
คดีสืบเนื่องมาจากจำเลยยื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2532 เจ้าพนักงานบังคับคดีในฐานะตัวแทนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ได้ขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยรวม 3 แปลง ตามโฉนดเลขที่ 16681,16692 และ 16695 แขวงสัมพันธวงศ์(จักรวรรดิ์)เขตสัมพันธวงศ์(สามเพ็ง)กรุงเทพมหานคร โดยปลอดจำนองแก่นายแสงชัยเทียมตะวันในราคาต่ำมากและควรแยกขายที่ดินโฉนดเลขที่ 16681 พร้อม สิ่งปลูกสร้างไปก่อน หากได้เงินจากการขายไม่พอชำระหนี้ ทั้งหมดแล้ว จึงให้รวมขายที่ดินอีก 2 แปลง ก็จะได้ราคาสูงขึ้น และได้เงินเพียงพอชำระหนี้ทั้งหมด ขอให้สั่งยกเลิกการขายทอดตลาด ที่ดินของจำเลย ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการขายทอดตลาด ที่ดินของจำเลยทั้งสามแปลงโดยวิธีแยกขายเป็นสองครั้ง
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยและนายแสงชัยเทียมตะวันผู้ซื้อทรัพย์ ต่างยื่นคำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 53,52)
ขั้นอุทธรณ์ จำเลยยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ยกคำร้อง (อันดับ 43)
คำสั่ง
กรณีตามคำร้องเป็นการขอให้สั่งคุ้มครองประโยชน์ของจำเลย ในระหว่างฎีกา พิจารณาตามคำร้องของ จำเลยแล้ว เห็นสมควรให้งด การดำเนินการเกี่ยวกับการขายทอดตลาดตามคำร้องของ จำเลยไว้ในระหว่างฎีกา ให้ศาลชั้นต้นแจ้งคำสั่ง ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ