คำสั่งคำร้องที่ 1576/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ได้ยื่นคำแก้ฎีกาไว้เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2536 แต่โจทก์ตรวจพบว่าตามคำแก้ฎีกาเดิมยังบกพร่องอยู่บางประการ จึงขอแก้ไขและเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ คำแก้ฎีกาเดิม ข้อ 1 ย่อหน้าที่ 1 บรรทัดแรก ย่อหน้าที่ 2 บรรทัดที่ 6 และ 8 ย่อหน้าที่ 3 บรรทัดแรก ย่อหน้าที่ 4 บรรทัดที่ 5 จากคำว่า อุทธรณ์ แก้เป็น ฎีกา และคำแก้ฎีกาเดิม ข้อ 1 ย่อหน้าที่ 4 บรรทัดที่ 2 จากข้อความที่ว่า โดยให้โจทก์จัดการรื้อถอน แก้เป็น โดยให้จำเลยจัดการรื้อถอนสิ่งรบกวน และบรรทัดที่ 7 จากคำว่า จำเลยที่ 1 แก้เป็น จำเลยที่ 3 ส่วนข้อความอื่น ตามคำแก้ฎีกาเดิมขอให้คงไว้ตามเดิม โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามรื้อกำแพงด้านทิศตะวันออก และทิศตะวันตกที่ปิดกั้นที่ดินโฉนดเลขที่ 10266แขวงบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร กับให้รื้อหลังคาที่คร่อมที่ดินโฉนดเลขที่ 10266 แขวงบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ออกไปจากที่ดินดังกล่าวภายใน 15 วัน นับถัดจากวันทราบคำบังคับ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 และที่ 3 ฎีกา (อันดับ 87)
โจทก์ยื่นคำแก้ฎีกา และยื่นคำร้องดังกล่าว แต่เนื่องจากโจทก์ไม่นำส่งสำเนาคำร้องให้แก่จำเลยที่ 1 และที่ 3 ตามคำสั่งศาล ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่า โจทก์ทิ้งคำร้องขอ แก้ไขเพิ่มเติมคำแก้ฎีกาแล้ว จึงให้ส่งไปศาลฎีกาเพื่อสั่งต่อไป(อันดับ 90,91 และ 45)

คำสั่ง
การที่จะถือว่าโจทก์ทิ้งคำร้องขอแก้ไขคำแก้ฎีกา เพราะเหตุ โจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินการนำส่งสำเนาคำร้องดังกล่าวแก่จำเลยที่ 1 ที่ 3 ตามคำสั่งศาลชั้นต้นนั้น จะต้องได้ความว่าศาลชั้นต้น ได้ส่งคำสั่งให้แก่โจทก์โดยชอบแล้ว แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาคำร้องขอแก้ไขคำแก้ฎีกา ให้แก่จำเลยที่ 1 ที่ 3 หลังจากวันที่โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว แล้ว 2 วัน โดยมิได้ส่งคำสั่งให้แก่โจทก์ทราบ ดังนั้นการที่โจทก์ มิได้ดำเนินการตามคำสั่ง ศาลชั้นต้น จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ ทิ้งคำร้องขอแก้ไขคำแก้ฎีกา ให้ส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้น ดำเนินการเสียใหม่ให้ถูกต้องต่อไป

Share