คำสั่งคำร้องที่ 1526/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ไม่มีเหตุผลสมควรที่จะฎีกา ฉะนั้นหากโจทก์ยังติดใจที่จะฎีกา ก็ให้นำค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาชำระและนำค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันนี้ มิฉะนั้นไม่รับฎีกาต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2532 อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว ศาลชั้นต้นสั่งว่า โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง จึงไม่รับโจทก์เห็นว่านับแต่วันที่โจทก์ได้ยื่นฎีกาและคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2533 โจทก์ก็ได้ติดตามเพื่อดูคำสั่งของศาลมาโดยตลอด จนกระทั่งวันที่ 8 พฤษภาคม 2532โจทก์จึงทราบคำสั่งของศาล และปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถาและไม่รับฎีกาในวันที่ 18 เมษายน 2532ดังนั้นที่โจทก์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งในวันที่ 10 พฤษภาคม 2532 จึงยังไม่เกินกำหนด 7 วันโปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ไว้พิจารณา ถ้าศาลฎีกามีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้น โปรดขยายระยะเวลาที่กำหนดให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมมาวางศาลไปอีกระยะหนึ่งด้วย
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองแถลงคัดค้าน (อันดับ 167)
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินแก่โจทก์เป็นจำนวน 1,600,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินจำนวน 1,000,000 บาท นับจากวันฟ้องไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นให้โจทก์หรือกรมสรรพากรเข้าตรวจบัญชีของจำเลยทั้งสองโดยค่าใช้จ่ายของจำเลยทั้งสองเองในส่วนผลกำไร-ขาดทุนในส่วนที่โจทก์ฟ้องเท่านั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตตามคำร้อง (อันดับ 164,163)
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2532 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 162)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 165)

คำสั่ง
เนื่องจากโจทก์ยื่นฎีกาและยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2532 แต่ศาลหาได้มีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นไม่ ปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันที่ 18 เมษายน 2532อันเป็นวันหลังจากที่โจทก์ยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาแล้ว 1 วันและไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ทราบคำสั่งดังกล่าวเมื่อใด จำเลยเองก็ไม่ได้แย้งเป็นอย่างอื่น จึงน่าเชื่อว่า โจทก์เพิ่งทราบคำสั่งศาลเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2532 จริงตามคำร้อง ดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ฎีกาอย่างคนอนาถาได้อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ฟังขึ้น ให้รับอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ที่ขอฎีกาอย่างคนอนาถาไว้ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาให้อีกฝ่ายแล้วดำเนินการเพื่อศาลฎีกาจะได้สั่งต่อไป

Share