คำสั่งคำร้องที่ 1484/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยขอให้ศาลสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันขอใช้หลักทรัพย์เดิมเป็นหลักประกัน
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 34,41,81 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137,264,265,267,268,91,83,33 ฯลฯ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม จึงลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต จำคุก 1 ปี ฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ใบแจ้งย้ายที่อยู่ ลงโทษฐานใช้เอกสารราชการปลอม จำคุก 1 ปี ฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมหนังสือของสำนักงานเขตพญาไท ลงโทษฐานใช้เอกสารราชการปลอมหนังสือฯ จำคุก 1 ปี ฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน จำคุก 6 เดือน จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน ฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมใบแจ้งที่อยู่ ลงโทษฐานใช้เอกสารราชการปลอมจำคุก 6 เดือน ฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมหนังสือของสำนักงานเขตพญาไท ลงโทษฐานใช้เอกสารราชการปลอมหนังสือฯ จำคุก 6 เดือน ฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน จำคุก 3 เดือน เรียงกระทงลงโทษจำเลยแล้วรวมจำคุก 1 ปี 9 เดือน ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอมใบแจ้งย้ายที่อยู่ กับความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานเป็นกรรมเดียวกันให้ลงโทษบทหนักฐานใช้เอกสารราชการปลอมบทเดียวรวมโทษจำคุกทุกกระทงหลังจากลดโทษเพราะรับสารภาพแล้ว คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว โดยแถลงในคำร้องประกอบว่าจะยื่นฎีกาต่อไป (อันดับ 47,46)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวทั้งในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โดยในชั้นอุทธรณ์ตีราคาประกัน 100,000 บาท (อันดับ 16,30)

คำสั่ง
คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง สมควรจะได้พิจารณาฎีกาของจำเลยประกอบเสียก่อน แต่จำเลยยังมิได้ยื่นฎีกาจึงไม่มีเหตุจะพิจารณาให้ปล่อยชั่วคราวในชั้นนี้ ยกคำร้อง

Share