แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันขอใช้หลักทรัพย์ที่ได้ยื่นไว้เดิมเป็นหลักประกัน
หมายเหตุ ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391 ให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 ไว้ 200 บาท จำเลยที่ 2มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371,297(8) ให้เรียงกระทงลงโทษ ข้อหาพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะฯให้ปรับ 80 บาท ข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสให้จำคุกไว้ 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 3 ปี ปรับ 80 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8),83 ให้จำคุกไว้ 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อ 2 ของจำเลยเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ส่วนฎีกาข้อ 3 เป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่มิได้ยกขึ้นว่ากันแต่ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จึงไม่รับ (อันดับ 96)
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 98)
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องดังกล่าว โดยมีคำร้องประกอบของผู้ขอประกัน (อันดับ 99)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยทั้งสองชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น โดยตีราคาประกันคนละหนึ่งแสนบาทและอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 2 ชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โดยตีราคาประกันสองแสนบาท (อันดับ 4,61)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลฎีกามีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสองแล้ว จึงไม่มีเหตุจะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวให้ยกคำร้อง