คำสั่งคำร้องที่ 1346/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ จำเลยจะต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 ให้จำเลยนำเงินมาชำระหรือหาประกันมาวางภายใน 5 วันต่อมาจำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ให้นำเงินตามคำพิพากษามาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234กับขอให้มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยและให้ส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง ศาลแรงงานกลางสั่งว่า ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ยกคำร้อง
จำเลยเห็นว่า คดีนี้พิพาทเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองแรงงานระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง ในส่วนอุทธรณ์นั้นพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 54 ถึง 57 ได้กำหนดเรื่องอุทธรณ์ไว้ชัดแจ้งว่าให้อุทธรณ์ได้ในปัญหาข้อกฎหมายและให้ส่งไปยังศาลฎีกา ไม่จำต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 มาใช้บังคับ การที่ศาลมีคำสั่งให้นำเงินตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าจะใช้กฎหมายใดแก่จำเลย โปรดเพิกถอนคำสั่งศาลแรงงานกลางที่สั่งว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมหรือมีคำสั่งว่าจำเลยไม่จำเป็นต้องนำเงินตามคำพิพากษามาวางศาลและให้รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 59)
โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินเดือนค้างจ่ายแก่โจทก์จำนวน 32,200 บาท ค่าน้ำมันค้างจ่าย 28,665 บาทค่าชดเชย 51,750 บาท เงินสมทบ 2,150 บาท และให้จำเลยจ่ายค่าดอกเบี้ยในการผิดนัดร้อยละสิบห้าจนกว่าจะชำระเสร็จ และค่าทนายความให้แก่โจทก์ด้วย
จำเลยไม่มาศาลในวันนัดพิจารณา ศาลแรงงานกลางสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา
จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การอ้างว่าไม่จงใจขาดนัดพร้อมกับแนบคำให้การและฟ้องแย้งลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2529 มาพร้อมกับคำร้อง ศาลแรงงานกลางไต่สวนคำร้องแล้ว เชื่อว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ ไม่รับคำให้การจำเลย
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2529 ว่า จำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การในวันที่ 30 พฤษภาคม 2529 ได้โดยแถลงถึงความจำเป็นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 41และศาลแรงงานกลางมิได้มีคำสั่งเกี่ยวกับฟ้องแย้งของจำเลย ทำให้ถือว่าศาลไม่รับฟ้องแย้งของจำเลย ขอให้กลับคำสั่งศาลแรงงานกลางแล้วพิพากษาให้รับเป็นคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลย ศาลแรงงานกลางสั่งว่า เป็นการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ไม่รับอุทธรณ์จำเลย
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 91,762.14บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ย 1,006.30 บาท และชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีในเงินต้น 48,580 บาท นับตั้งแต่วันที่ 1กุมภาพันธ์ 2529 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงินต้น 65,182.14 บาท นับตั้งแต่วันที่ 7มกราคม 2529 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระแก่โจทก์เสร็จ ที่โจทก์ขอให้จำเลยใช้ค่าทนายนั้นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2529 ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งในวันเดียวกันว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ ไม่รับเป็นอุทธรณ์จำเลย (อันดับ 41)
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งลงวันที่ 15 สิงหาคม 2529 ขอให้กลับคำสั่งศาลแรงงานกลางที่ไม่รับคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลย แล้วมีคำสั่งให้รับคำให้การและฟ้องแย้ง กับพิจารณารับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ได้ยื่นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2529 ให้จำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การและฟ้องแย้งได้ แล้วให้ศาลแรงงานกลางดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานไปตามรูปคดี ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งในวันเดียวกันว่าการที่ศาลฟังว่าจำเลยจงใจขาดนัดหรือไม่ เป็นการฟังในข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ ไม่รับอุทธรณ์จำเลย (อันดับ 42)
จำเลยยื่นคำร้องว่าคำสั่งศาลลงวันที่ 15 สิงหาคม 2529เป็นการสั่งที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายและเป็นการผิดระเบียบ ขอให้ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งลงวันที่ดังกล่าว แล้วมีคำสั่งให้ส่งสำนวนให้ศาลสูงเพื่อพิจารณาต่อไปหรือมิฉะนั้นให้ศาลแรงงานกลางสั่งเกี่ยวกับคำฟ้องแย้งของจำเลยต่อไป ศาลแรงงานกลางสั่งว่าศาลจะพิจารณาสั่งรวมในอุทธรณ์คำสั่งฉบับลงวันที่ 25 สิงหาคม 2529(อันดับ 45)
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งฉบับลงวันที่ 25 สิงหาคม 2529ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว และต่อมาจำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ให้นำเงินตามคำพิพากษามาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 กับขอให้มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยและให้ส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 47,49)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 56)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มิได้บัญญัติถึงวิธีการอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของศาลแรงงานไว้โดยเฉพาะ กรณีจึงต้องด้วยมาตรา 31ที่ให้นำบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเมื่อศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย และจำเลยอุทธรณ์คำสั่งนี้ต่อศาลฎีกา จำเลยก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31คำสั่งของศาลแรงงานกลางชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share