แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ประกันฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119ไม่รับฎีกา ผู้ประกันเห็นว่า ฎีกาของผู้ประกันเกี่ยวกับการขอลดค่าปรับ ภายหลังจากได้วางเงินค่าปรับเต็มตามจำนวนที่ศาลสั่งปรับแล้ว ไม่ใช่ฎีกาคำสั่งในกรณีผิดสัญญาประกันจึงไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 119 โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของผู้ประกันด้วย หมายเหตุ กรณีเป็นชั้นผิดสัญญาประกัน กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยที่ 2ได้รับการปล่อยชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น โดยมีนายสุพัฒน์ปัญจกุล เป็นผู้ประกัน ศาลชั้นต้นนัดสอบคำให้การและนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยที่ 2 ทราบนัดโดยชอบแล้ว ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นได้ออกหมายจับจำเลยที่ 2 และมีคำสั่ง ให้ปรับผู้ประกันตามสัญญา ต่อมานายประสิทธิ สีแดงได้ยื่นคำร้องแทนผู้ประกันว่า จำเลยที่ 2 ถูกขังอยู่ใน เรือนจำตามหมายขังในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 176/2535 ของศาลชั้นต้น ขอให้รับตัวจำเลยที่ 2 ไว้ในคดีนี้ และขอลดค่าปรับ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง และให้มี หมายขังจำเลยที่ 2 ไว้ ต่อมาผู้ประกันยื่นคำร้องขอลดค่าปรับ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ผู้ประกันจึงได้นำเงินค่าปรับ จำนวน 186,000 บาท มาชำระต่อศาล และได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่ง ขอลดค่าปรับ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ประกันฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 30) ผู้ประกันจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 31)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีนี้ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นไม่ลดค่าปรับให้ผู้ประกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุด ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของผู้ประกันจึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง